ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก หลังตลาดคลายกังวลปัญหาการคลังสหรัฐ

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,534.54 จุด เพิ่มขึ้น 79.99 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 3,601.65 จุด เพิ่มขึ้น 11.15 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,901.42 จุด เพิ่มขึ้น 9.34 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากโอบามากล่าวว่า ข้อตกลงเพื่อสกัดภาวะหน้าผาทางการคลังอาจจะมีความเป็นไปได้ภายใน 1 สัปดาห์ หากรีพับลิกันจะประนีประนอมเกี่ยวกับอัตราภาษี

“เราได้เห็นความเคลื่อนไหวในช่วงหลายวันที่ผ่านมาของสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วน ผมคิดว่ามีการตระหนักว่าพวกเขาจะสามารถยอมรับการปรับขึ้นอัตราภาษีบางส่วนได้ ตราบใดที่มีการดำเนินการควบคู่กับการปฏิรูปที่จริงจังและการลดรายจ่ายเพิ่มเติม" โอบามากล่าว

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ตลาดการเงินทั่วโลกวิตกกังวลว่าสหรัฐจะเผชิญกับมาตรการปรับขึ้นภาษีและการลดการใช้จ่ายวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า นอกเสียจากว่าสภาคองเกรสจะสามารถตกลงกันได้ภายในสิ้นปีนี้ แต่ที่ผ่านมานั้นพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับการลดหนี้สาธารณะซึ่งอยู่ที่ราว 16.2 ล้านล้านดอลลาร์

ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ แต่อีซีบีไม่ได้ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายที่จะประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและรอดูโอกาสที่เหมาะสมก่อนที่จะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่

หุ้น EADS พุ่งขึ้น 8% หลังจากบริษัทประกาศปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น เพื่อเปิดทางให้เยอรมนีและฝรั่งเศสเข้ามาถือหุ้นราว 12% พร้อมกับประกาศแผนซื้อคืนหุ้น 15% ส่วนหุ้นเดมเลอร์ ปรับตัวขึ้น 1.2% หลังจากเดมเลอร์ตัดสินใจขายหุ้นจำนวน 7.5% ใน EADS คิดเป็นมูลค่า 1.66 พันล้านยูโร (2.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)