(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ามี momentum ขึ้นไปต่อ แต่เสี่ยงเจอแรงขายทำกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 7, 2012 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมี momentum ขยับขึ้นไปต่อได้ แต่ตลาดฯก็มีความเสี่ยงสูงจากแรงขายทำกำไรหลังจากสถาบันและพอร์ตโบรกเกอร์ก่อนหน้านี้มีแรงซื้อไปมากแล้ว นักลงทุนควรระมัดมะวังในการลงทุนและเน้นหุ้นปันผล พร้อมให้แนวรับวันนี้ 1,330 จุด แนวต้าน 1,350 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ยังคงมี momentum ที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อเนื่อง แต่แม้ว่าดัชนีจะขึ้นไปต่อได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะหลังจากที่แรงซื้อในตลาดมาจาก 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มสถาบัน และพอร์ตโบรกเกอร์ ก่อนหน้านี้ อาจจะขายทำทำไรออกมา

ดังนั้น จึงแนะนำนักลงทุนให้ระมัดระวังการลงทุนในระยะนี้ โดยเน้นที่หุ้นปันผล พร้อมให้แนวรับวันนี้ที่ 1,330 จุด และแนวต้าน 1,350 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(6 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,074.04 จุด เพิ่มขึ้น 39.55 จุด (+0.30%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,413.94 จุด เพิ่มขึ้น 4.66 จุด(+0.33%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,989.27 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด(+0.52%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 1.98 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 44.92 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 16.99 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.24 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.66 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.76 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 6.80 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(6 ธ.ค.)1,339.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.82 จุด(+0.74%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,771.98 ล้านบาท เมื่อ 6 ธ.ค.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(6 ธ.ค.) ที่ 86.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.62 ดอลลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(6 ธ.ค.) ปิดที่ 5.5 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.66/68 ตามยูโร หลัง ECB ลดดอกเบี้ย-คาดการณ์ศก.
  • ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีการหารือและเห็นพ้องร่วมกันให้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่เสนอเรื่องพร้อมความเห็นขอให้เพิกถอนการประมูลคลื่นความถี่ 3จี ต่อศาลปกครองสูงสุดโดยเร็ว ซึ่งประเด็นที่จะอุทธรณ์จะเน้นย้ำว่า การกระทำของสำนักงาน กสทช.มีผลกระทบต่อความเสียหายของประชาชนส่วนรวม จึงต้องดำเนินการฟ้องเพื่อเป็นการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ ขณะนี้อยู่ระหว่างยกร่างคำอุทธรณ์ เพราะยังมีเวลาให้ยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน
  • สมาชิกสมาคมทีวีดาวเทียมยื่นขอใบอนุญาต 90 ช่อง จี้ กสทช.ทบทวนค่าธรรมเนียมรวมจ่าย 4% ชี้ซ้ำซ้อน กระทบต้นทุนผู้ประกอบการ พร้อมเดินหน้าร้องศาลปกครองหากไม่ปรับแก้ ด้าน กสทช.แจงเดินตามกฎหมายเดิม ย้ำทดลองจัดเก็บตามเกณฑ์เดิม 1 ปี ก่อนศึกษาปรับแก้ไข คาดเดือนม.ค.นี้เริ่มออกใบอนุญาตโครงข่ายเคเบิล 400 ราย และทีวีดาวเทียม 300 ช่อง
  • "ไออีเอ" ชี้แรงกดดันราคาพลังงานลดลงหลังสหรัฐพบ "เชลก๊าซ" ส่งผลทิศทางการค้าพลังงานของโลกเปลี่ยน ยันหลายประเทศส่งสัญญาณผิดอุดหนุนราคาพลังงาน ย้ำการอนุรักษ์พลังงานเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในอนาคต ระบุอีก 25 ปีอาเซียนมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นถึง 80% เตรียมส่งข้อมูลให้รัฐมนตรีพลังงานอาเซียนวางแผนการใช้พลังงานในภูมิภาค
  • บลูมเบิร์กรายงานว่าบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติไทยเดินหน้าซื้อและควบรวมกิจการในต่างประเทศต่อเนื่องส่งผลให้ตลอดทั้งปี 2555 ปริมาณการซื้อในต่างแดนพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ(ราว 7.62 แสนล้านบาท) นับเป็นอันดับที่ 3 ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเป็นรองเพียงแค่บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นและจีนเท่านั้น
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ไม่สามารถให้ผู้ประกอบการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เป็นเวลา 3 ปีตามข้อเสนอของภาคเอกชนที่จะให้ลดผลกระทบค่าแรง 300 บาท ในวันที่ 1 ม.ค. 2556 เพราะระบบภาษีจะเลือกปฏิบัติกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคงไม่ได้
  • เครดิตบูโรเล็งจับมือศูนย์วิจัยแบงก์เตรียมจัดทำข้อมูลการผิดนัดชำระหนี้สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจ เพื่อส่งสัญญาณให้สาธารณชนเป็นรายไตรมาส ชี้สัญญาณการผิดนัดชำระหนี้ลูกค้ารายได้ต่ำน่าเป็นห่วง แนะทุกฝ่ายเลิกกระตุ้นวัฒนธรรมการก่อหนี้ ด้าน"ธปท."ลุยศึกษาธุรกิจ"นอนแบงก์"หวังแยกประเภทธุรกิจเพื่อหาคนดูแล ชี้หลังได้ข้อมูลชัดเจนถกร่วมคลังเพิ่มเติม, คลังชี้หนี้เสียครัวเรือนเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องออกมาตรการคุมเข้ม ระบุให้ถือเป็นหน้าที่ของธปท.กำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อทั้งแบงก์-นอนแบงก์
  • กองทุนฟื้นฟูฯ เดินหน้านำหุ้นบสก.เข้าตลาดฯ ปลื้มมีผู้สนใจเสนอตัวรับฟังทีโออาร์ถึง 10 ราย ระบุต้นเดือนม.ค.นี้จะให้ยื่นแผนกลยุทธ์ และคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ พร้อมรอจังหวะทยอยปล่อยหุ้น-ลดบทบาท
  • นายธนาคารต่างประเมินว่าปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) ในสหรัฐ ซึ่งหมายถึงว่ามาตรการการคลังชั่วคราวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่สิ้นสุดลงจะมีผลกระทบต่อภาพรวมการส่งออกของไทยในปีหน้าอย่างแน่นอน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ANAN เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้(7 ธ.ค.)เป็นวันแรก ราคาขาย IPO หุ้นละ 4.20 บาท บล.เกียรนาคิน ระบุมีส่วนต่างเพียง 5% จากมูลค่าเหมาะสมที่ประเมินที่ 4.50 บาท(มูลค่าเหมาะสมของ Consensus อยู่ในกรอบ 4.02 — 4.92 บาท)
  • RML(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 2.22 บาท หลังผลประกอบการฟื้นตัวเป็นกำไร มองว่าแนวโน้มธุรกิจของ RML ในฐานะเป็นผู้นำตลาดคอนโดมีเนียม High End รวมถึงแผนรุกโครงการคอนโดมีเนียมเพื่อเจาะตลาดระดับกลางเพิ่มเติมอีก 2 — 3 แห่งต่อปี จะทำให้เห็นการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิในระยะยาวที่แข็งแกร่ง โดยในปี 2556 กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 26% YoY ต่อเนื่องจากปี 2555 ที่คาดว่าจะขยายตัว 43% YoY ขณะที่ 4Q55 คาดว่าจะไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดในรอบปี
  • TISCO(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มธนาคารขนาดเล็กจากประเด็นการลงทุนในด้านการเติบโตของสินเชื่อที่โดดเด่นตลอดทั้งปี จากการได้ประโยชน์จากโครงการรถคันแรกของรัฐบาล และมีสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อที่ผลตอบแทนสินเชื่อจะไม่ลดต่ำลงหากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยเราคาดว่าจะขยายตัว 30% YoY สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้กำไรสุทธิปี 2555 น่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ ราคาหุ้น Underperform เมื่อเทียบกับกลุ่ม ให้มูลค่าเหมาะสม 54 บาท
  • KBANK(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 221 บาท ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งจากการเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจซึ่งมีความโดดเด่นในการบริหารจัดการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ ในช่วง 9M55 มีกำไรสุทธิ 27,567 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30%YoY คิดเป็น 77% ของประมาณการทั้งปี 3.58 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโต 48%YoY
  • PS(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 25.30 บาท ยอดจอง 11 เดือนแรกปี 55 ทำได้ 2.7 หมื่นล้านบาทคิดเป็น 93% ของเป้าทั้งปีที่ 2.9 หมื่นล้านบาทหนุนยอดขายรอโอน (backlog) พุ่งขึ้นเป็น 4.1 หมื่นล้านบาท
  • LOXLEY(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 7.10 บาท ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่ โดยคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญางานกำจัดขยะกับกรุงเทพมหานครมูลค่ารวม 1.2 พันล้านบาท ภายในเดือน ธ.ค.2555 และอยู่ระหว่างประมูลงานในต่างประเทศมูลค่ารวมกันถึง 1.6 หมื่นล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ