ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 12.98 จุด หรือ 0.22% สู่ระดับ 5,914.40 จุด โดยในระหว่างวัน ดัชนีเคลื่อนตัวแตะระดับสูงสุดที่ 5,923.11 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวขึ้นสูงเกินคาด 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. เทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 80,000-90,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีที่ 7.7% เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวเท่ากับเดือนก่อนหน้านี้ที่ระดับ 7.9%
ข้อมูลแรงงานสหรัฐเป็นที่จับตาของตลาดการเงินทั่วโลก ก่อนที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะประชุมในวันที่ 11-12 ธ.ค.นี้ เนื่องจากข้อมูลนี้อาจมีส่วนต่อการตัดสินใจของเฟดว่าจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจต่อไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นลอนดอนถูกสกัดช่วงบวก อันเนื่องมาจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนธ.ค.โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ร่วงลงแตะ 74.5 จาก 82.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งตัวเลขล่าสุดถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของอังกฤษเองก็ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายเช่นกัน เมื่อสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ผลผลิตภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนต.ค.ร่วงลง 1.3% จากเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. โดยเป็นผลมาจากผลผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่ลดลง โดยเฉพาะเบียร์ ภายหลังมหกรรมโอลิมปิกที่ลอนดอนปิดฉากลง
ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมอุตสาหกรรมเหมืองและพลังงานด้วยนั้น ปรับตัวลง 0.8% ในเดือนต.ค. ซึ่งข้อมูลภาคการผลิตที่ออกมาย่ำแย่ได้ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งว่าเศรษฐกิจของประเทศอาจจะกลับมาหดตัวลงอีกในช่วงปลายปีนี้
หุ้นเบิร์กลีย์ กรุ๊ป พุ่ง 4.7% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี หลังบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่เผยผลกำไรเพิ่มสูงขึ้น พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 หุ้นมาร์ก แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วง 1.1% หลังถูกโกลด์แมน แซคส์ปรับลดความน่าลงทุนในหุ้น