(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ รอปัจจัยชี้นำใหม่-ยังเกาะติดปัจจัยนอกปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 11, 2012 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ เพื่อรอปัจจัยชี้นำใหม่เข้ามา

โดยในวันที่ 12 ธ.ค.นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้จะมีการประชุมผู้นำอียู ซึ่งก็จับตาดูความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้ในยุโรป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน นอกจากนี้ยังต้องติดตามการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff ต่อไปด้วย ด้านอิตาลี ก็มีประเด็นเรื่องที่นายกฯของอิตาลีเตรียมลาออก ซึ่งทำให้มีการมองกันว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศที่มีหนี้ได้

พร้อมให้แนวรับ 1,325-1,330 จุด แนวต้าน 1,340 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(10 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,169.88 จุด เพิ่มขึ้น 14.75 จุด (+0.11%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,418.55 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด(+0.03%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,986.96 จุด เพิ่มขึ้น 8.92 จุด(+0.30%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 23.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 6.21 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.19 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.62 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.67 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.50 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(7 ธ.ค.)1,334.95 จุด ลดลง 4.93 จุด(-0.37%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 101.88 ล้านบาท เมื่อ 7 ธ.ค.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(10 ธ.ค.) ที่ 85.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.37 ดอลลลาร์หรือ 0.43%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(10 ธ.ค.) ปิดที่ 6.2 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.61/67 แข็งค่าตามภูมิภาค จับตามติเฟด-EU Summit
  • คลังเตรียมเสนอสูตรเดิมใช้กลไกแบงก์รัฐแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ, นักเศรษฐศาสตร์ห่วงหนี้ประเทศขยับสูงต่อเนื่อง ภาคครัวเรือนน่าห่วง เหตุดอกเบี้ยต่ำ-นโยบายประชานิยม ส่งผลให้ก่อหนี้ง่าย ด้านสถาบันการเงินรอประเมินมาตรการรัฐดูแลปล่อยกู้ ยันทำตามเงื่อนไขเคร่งครัดกรุงศรีฯ เผยสินเชื่อรายย่อยโต 11% สูงกว่าจีดีพีสองเท่า
  • ปิดฉากมหกรรมยานยนต์เกินเป้า คาดยอดจองพุ่ง 8.3 หมื่นคัน แห่ซื้ออีโคคาร์มากที่สุด จับตาปีหน้าค่ายรถแข่งเดือด รักษาฐานลูกค้า ลดผลกระทบตลาดรวมสะดุด หลังจากหมดโครงการรถคันแรก มาสด้าชี้บริหารการผลิต ตลาดง่าย หลังรู้ความต้องการที่แท้จริง
  • เฟดจ่อขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมอังคาร-พุธ นี้ ชดเชย "โอเปอเรชันทวิสต์" ที่จะหมดอายุสิ้นปี ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นไม่มาก เหตุตัวเลขว่างงานสูงกว่า 7% แถมปัญหา "หน้าผาการคลัง" ยังแก้ไม่ได้
  • ธปท.ผนึกคลังกำหนดกรอบเงินเฟ้อปีหน้า 0.5-3% เตรียมรับมือเศรษฐกิจหดตัวตามเศรษฐกิจโลก, การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่ 11 ธ.ค. นายกิตติรัตน์ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะเสนอกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานประจำปี 2556 โดยกำหนดไว้ที่ 0.5-3%
  • นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.กำลังเตรียมออกมาตรการผ่อนคลายการเคลื่อนย้ายเงินทุนให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติมจากเดิมธปท.เคยออกประกาศให้เคลื่อนย้ายเงินทุนได้ง่ายขึ้นเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เดินทางไปพม่าเพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ของพม่าที่รับผิดชอบเรื่องการลงทุนในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการหารูปแบบการลงทุนและประธานอนุกรรมการกฎระเบียบการลงทุนในโครงการทวาย จะเดินทางไปพม่าเพื่อหารือกับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบโครงการทวายของพม่าก่อนสิ้นปีนี้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • กลุ่มยานยนต์(ทรีนีตี้)ปิดฉากมหกรรมยานยนต์เกินเป้า คาดยอดจองพุ่ง 8.3 หมื่นคัน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยมีมากกว่า 6.8 หมื่นคัน แนวโน้มตลาดรถยนต์ปีนี้จะทำได้ถึง 1.3-1.4 ล้านคัน ส่วนปีหน้าคาดจะลดลงเล็กน้อยหลังหมดโครงการรถคันแรก โดยคาดว่าจะอยู่ในระดับประมาณ 1.2 ล้านคัน แต่ปีหน้าจะได้แรงหนุนจากตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 1.3-1.4 ล้านคัน จากปีนี้ 1 ล้านคัน ทำให้ปี 2556 ยอดผลิตรถยนต์ยังโตสู่ระดับ 2.5-2.7 ล้านคัน จากปีนี้ราว 2.3-2.4 ล้านคัน สำหรับหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ แนะ"ซื้อ"หุ้น AH เป้า 24 บาท, SAT เป้า 33 บาท และ STANLY เป้า 250 บาท
  • TRUE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 6.30 บาท เนื่องจากใบอนุญาต 3G เป็น 1 ในเงื่อนไขเพื่อหาพันธมิตรร่วมทุนทางธุรกิจ หลังได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในการเจรจาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าตลาดมีแนวโน้มตอบรับเชิงบวก หาก TRUE ได้พันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งด้านการเงิน ซึ่งเป็นจุดอ่อนในปัจจุบันเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน
  • TCAP(เกียรตินาคิน)"ซื้อเป้า 42.50 บาท ราคาหุ้นไม่น่าตอบรับในเชิงบวกการการเริ่มซื้อคืนหุ้นในวันนี้ เนื่องจากราคาซื้อหุ้นคืนต่ำกว่าราคาปัจจุบัน แต่ TCAP จากการเป็นเจ้าตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทำให้จะได้ประโยชน์จากการจัดงาน Motor Expo ที่มียอดจองรถสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 78,807 คัน และไตรมาสนี้น่าจะเป็นไตรมาสที่สินเชื่อของ TCAP โตสูงที่สุด
  • PS(ทรีนีตี้)"ซื้อ"ตัวเลข Presales ต.ค.-พ.ย. โดดเด่นสูงถึง 3-3.3 พันล้านบาท รวม 11 เดือนแรก 27,054 ล้านบาท แนวโน้ม Presale ปีนี้จะทะลุเป้า 29,000 ล้านบาท แนวโน้มผลประกอบการปี 2555 คาดจะทำจุดสูงสุดใหม่ และแนวโน้มปี 2556 จะเป็นปีที่ Best & Beautiful & Sexy ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง พร้อมปรับประมาณการเพิ่มขึ้น และเพิ่มเป้าหมายเป็น 25 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ