บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯเพิ่มคำแนะนำเป็น"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซี.พี. ออลล์(CPALL) มูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 52 บาท บวกกับยังเห็นการเติบโตในระดับสูง ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาก คือไม่มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยและมี ROE สูงสุดในกลุ่มค้าปลีกถึง 40% ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตยังโดดเด่น
โดยล่าสุดพึ่งเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งที่ 5 (ลำพูน) เพื่อรองรับการเติบโตของสาขาใหม่ภาคเหนือและเพื่อบริหารโลจิสติกต์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเชื่อว่าจะสามารถขยายสาขาเป็น 10,000 สาขา จากปัจจุบันราว 6,800 สาขาภายในระยะเวลา 5-6 ปีตามเป้าหมาย
พร้อมกำหนดมูลค่าพื้นฐานปี 2556 วิธีใหม่ อิง DCF (WACC 9.51%, TV Growth 2%) อยู่ที่ 52 บาท เพื่อสะท้อนสมมติฐานกำไรระยะยาว 5 ปี (เดิม อิง PER) ขณะที่ ระดับราคาปัจจุบันที่อยู่นิ่งมาตลอดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ภายหลังงบ 3Q55 จากปัจจัยกดดันของการทำ Big lot ที่ผ่านมาซึ่งจบลงไปแล้ว ถือเป็นโอกาสให้เข้าทยอยสะสมอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นยังอาจได้รับแรงกดดันจากผลกระทบทางจิตวิทยาเชิงลบจากความกังวลเรื่องการลดสัดส่วนการลงทุนของบริษัทแม่ CP Group ในอนาคต เนื่องจากนโยบายการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งใช้เงินลงทุนที่ค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ CPRAM ซึ่งบริษัทย่อยที่ CPALL ถือหุ้น 99.99% และเป็นผู้ผลิตอาหารพร้อมรับประทาน (เบเกอรี, ติ่มซำ, อาหารแช่เย็นและแช่เยือกแข็ง ฯลฯ) โดยมากกว่า 50% ของสินค้าที่ผลิตถูกจัดจำหน่ายเข้าสู่ร้าน 7-eleven โดยตรง
CPRAM ได้เปิดเผยแผนกลยุทธ์ช่วง 5 ปีจากนี้ ภายใต้งบประมาณทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านบาท โดยเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานเดิมทั้ง 6 แห่ง และสร้างโรงงานใหม่ครอบคลุมทั่วประเทศอีก 7 แห่ง เพื่อรองรับการเปิดตลาดในต่างประเทศและเพื่อสนับสนุนการขยายสาขาของร้าน 7-eleven ที่เน้นทำตลาดอาหารพร้อมรับประทานมากขึ้น และเพิ่มความหลากหลายของอาหารครบทั้ง 3 มื้อ ซึ่งถือเป็นจุดขายและเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนของ CPALL ขณะที่แผนการเพิ่มกำลังการผลิตของ CPRAM จะส่งผลบวกต่อ CPALL โดยตรง