หุ้น BBL ราคาอยู่ที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท(+1.89%)มูลค่าซื้อขาย 839.69 ล้านบาท
หุ้น TCAP ราคาอยู่ที่ 37.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท(+1.35%)มูลค่าซื้อขาย 175.05 ล้านบาท
น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มแบงก์วันนี้ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก ทั้งนี้มองว่ากำไรของหุ้นในกลุ่มแบงก์ปีนี้น่าจะโดดเด่น และมีการทำ New High กันทั่วหน้า โดยได้มีการประเมินผลกำไรของหุ้นในกลุ่มแบงก์สำหรับปี 2555 ทั้งกลุ่มจะมีกำไร 1.69 แสนล้านบาท เติบโต 31% yoy และในปีหน้า(2556)กำไรของกลุ่มแบงก์ก็ยังเติบโตได้ต่อเนื่องอีก โดยคาดว่าจะมี 1.93 แสนล้านบาท เติบโต 14% จากปีนี้(2555)
สำหรับไตรมาส 4/55 มองว่าหุ้นในกลุ่มแบงก์น่าจะมีการเติบโตที่ดีมากเมื่อเทียบ yoy เนื่องจากปีที่แล้ว(2554)เจอกับภาวะน้ำท่วมแต่ปีนี้ไม่มี
ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มแบงก์ที่น่าสนใจลงทุนในปี 2556 ได้แก่ หุ้นธนาคารกสิกรไทย(KBANK)ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 225 บาท/หุ้น เนื่องจาก KBANK มีการบริหารที่ดีที่สุดในกลุ่มแบงก์ และเป็นตัวที่นักลงทุนต่างชาติชอบที่จะเข้าลงทุน อีกทั้งมองว่าผลการดำเนินงานของ KBANK จะมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน K-transformation ใกล้แล้วเสร็จ ก็จะทำให้รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของ KBANK มีการเติบโตที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของ KBANK มีสัดส่วน 40% แล้ว และรายได้ที่มาจากดอกเบี้ยของ KBANK ก็ยังคงมีการเติบโตดี ซึ่ง K-transformation ทำให้ KBANK มีการกระจายรายได้ที่ดี
นอกจากนี้ บมจ.ทุนธนชาต(TCAP) ก็เป็นอีกตัวที่แนะนำ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 46.7 บาท/หุ้น เนื่องจาก ราคาหุ้นยังถูก และในปี 2556 TCAP จะรับรู้กำไรจากการขายบริษัท ธนชาติประกันชีวิตไป ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรจากการขายประมาณ 5,100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเข้ามาในไตรมาส 1/56 ซึ่งการขายบริษัทประกันนี้ไปทำให้ไปช่วยเพิ่มฐานทุนของ TCAP ได้ประมาณ 2% ทำให้ TCAP สามารถรุกธุรกิจต่อไปได้อีก