ขณะที่กำไรสุทธิปี 55 คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดย 9 เดือน กำไรสุทธิโต 54% มาที่ 2.22 พันล้านบาทแล้ว จากปี 54 ที่ 2.8 พันล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจทั้งโรงแรมและอาหาร กำไรก็น่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยในส่วนของอัตราการเข้าพักโรงแรม 10 เดือน อยู่ที่ 72-80% เพิ่มขึ้น 5-6% yoy ปีหน้าก็น่าจะดีขึ้นถ้าไม่มีเหตุการเมือง โดยในครึ่งหลังปี 56 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการอนันตรา เรสซิเด้นท์ ภูเก็ต โดยจะพัฒนาเป็นวิลล่า 17-20 หลัง บนพื้นที่ 32 ไร่ พื้นที่ 580-1,100 ตร.ม.
นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบลงทุน 5 ปี รวม 3.5-4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นต่อยอดธุรกิจเดิมทั้งโรงแรมและร้านอาหาร 2-2.5 หมื่นล้านบาท และเตรียมไว้สำหรับธุรกิจใหม่ เช่น ซื้อกิจการใหม่และโครงการใหม่อีก 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท โดยจะใช้กระแสเงินสดของบริษัท กู้สถาบันการเงินและออกหุ้นกู้
และตั้งเป้ามีโรงแรมเพิ่มเป็น 140 โรงแรม จากปัจจุบัน 80 โรงแรม มีร้านอาหารเป็น 2,400 สาขา จาก 1,304 สาขา ทั้งเป็นเจ้าของเองและแฟรนไชส์ และมีจำนวนร้านค้าเป็น 270 ร้านค้า จาก 237 ร้านค้า มีสัดส่วนกำไรสุทธิจากต่างประเทศเป็น 50% ในประเทศ 50% ในส่วนของรายได้ต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 40% จากปัจจุบัน 25%
นอกจากนั้น บริษัทยังมองซื้อกิจการโรงแรมต่างประเทศเพิ่มอย่างต่อเนื่อง อย่างในประเทศออสเตรเลียก็มองหาแบรนด์อื่นๆด้วยนอกจากแบรนด์ OAKS ที่ซื้อมา ซึ่งการซื้อ OAKS มาเราได้ใช้ OAKS ในการขยายกิจการในออสเตรเลียเพิ่ม และขยายไปประเทศอื่นๆ ด้วย โดยใช้แบรนด์ OAKS ไป ซึ่งเดือนที่ผ่านมาได้เปิด OAKS แห่งแรกในกทม.ที่สาทร แล้ว และมีการเซ็นสัญญาให้ OAKS บริหารโครงการในซานย่าประเทศจีน