ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 78.56 จุดจากคาดการณ์เฟดกระตุ้นศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 12, 2012 06:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม และนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 78.56 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 13,248.44 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.29 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 1,427.84 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 35.34 จุด หรือ 1.18% ปิดที่ 3,022.30 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นหลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 6.9 ในเดือนธ.ค. จาก -15.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ดัชนีเข้าสู่แดนบวก

ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรปจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า แม้ธนาคารกลางเยอรมนีเพิ่งปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศลงก็ตาม

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนายโบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่า เขายังคงมีความหวังว่าพรรคเดโมแครทและรีพับลิกันจะสามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณได้ก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐรอดพ้นจากการเผชิญภาวะหน้าผาการคลัง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมซึ่งจะทราบผลในช่วงกลางดึกวันนี้ตามเวลาไทย

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 4.9% จากเดือนก.ย. แตะ 4.224 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการส่งออกหดตัว ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนต.ค.หดตัวลง 3.6% จากเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.8051 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าลดลง 2.1% แตะ 2.2275 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว

หุ้นแอปเปิลทะยานขึ้น 2.18% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิล ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊กปรับตัวขึ้น 0.5% หุ้นเอไอจีพุ่งขึ้น 5.7%

ส่วนหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 5.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ