โดยธนาคารเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นในระบบเศรษฐกิจของไทย ซึ่งคิดเป็น 11% ของ GDP ของครึ่งปีแรก นอกจากนี้ ภายหลังจากวิกฤตน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ได้กลับมาดำเนินการผลิตได้อีกครั้ง และธนาคารได้สนับสนุนทางการเงินในด้านต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการเหล่านี้ โดยในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ที่ผ่านมา ได้หนุนคู่ค้าผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์หลายราย และยังได้ขยายเครือข่ายธนาคารด้วยการทำบันทึกข้อตกลงกับธนาคารในประเทศญี่ปุ่นที่ส่งเสริมลูกค้าเอสเอ็มอีทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย ซึ่งนอกจากการสนับสนุนทางการเงินและสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งให้กับลูกค้าของธนาคารแล้ว ที ยังมีหน่วยงานสำหรับดูแลธุรกิจต่างประเทศแบบครบวงจร (International Desk) คอยให้คำปรึกษาในทุกความต้องการของธุรกิจต่างประเทศ
" เชื่อว่าการสนับสนุนทางการเงินจำนวน 2 พันล้านบาท เพื่อการขยายโรงงานของ บริษัท ไทย-สวีดิช แอสเซมบลีย์ จำกัด และ TMBP (Thai Manufacturing Body and Paint) ในครั้งนี้จะเป็นส่วนช่วยเสริมกำลังการผลิตของบริษัท นอกจากนั้นแล้ว วอลโว่ กรุ๊ป ประเทศไทย ยังมีแผนขยายศูนย์บริการทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มการขายและเครือข่ายบริการ ให้สามารถดูแลลูกค้าของวอลโว่ได้อย่างทั่วถึง" นายบุญทักษ์ กล่าว
ด้านนาย ฌาคส์ มิเชล ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า วอลโว่ กรุ๊ป ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยแผนการลงทุนของ วอลโว่ กรุ๊ป ก็พร้อมที่จะให้ประเทศไทยเป็นฮับการผลิตรถบรรทุกและรถบัสในภูมิภาคอาเซียน