สำหรับปี 55 บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อน เนื่องจากได้รับเงินชำระหนี้จากโครงการในประเทศพม่า ซึ่งในไตรมาส 4/55 จะได้รับชำระคืน 363 ล้านบาท หลังจากไตรมาส 3/55 ได้รับแล้ว 27.5 ล้านบาท ถือเป็นการได้รับเงินชำระคืนหนี้ครบทั้งหมด ส่วนรายได้เชื่อว่าจะเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท หลังจากช่วง 9 เดือน มีรายได้แล้ว 4.6 พันล้านบาท
"หลังได้รับเงินคืนหนี้จากพม่า จะทำให้บริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมด และอาจพิจารณาจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ คาดว่าเสนอบอร์ดต้นปี 56 และหลังจากนั้นจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเดือน เม.ย.56 หากบอร์ดอนุมัติจะถือเป็นการจ่ายปันผลครั้งแรกในรอบ 15 ปีหลังจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ"นายปสันน กล่าว
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(backlog)จำนวน 1.25 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/55 ไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้านบาท แต่ก็คาดว่าสิ้นปีนี้ backlog คงอยู่ระดับไม่ถึง 1.4 หมื่นล้านบาทตามที่เคยวางเป้าหมายไว้ เนื่องจากมีการทยอยส่งมอบงานเร็วกว่ากำหนด และการรับรู้ฯ งานบางส่วนที่คาดไว้ในปลายปีนี้อาจต้องเลื่อนเป็นปีหน้า
บริษัทคาดว่าในปีนี้อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)อยู่ที่ 10-15% สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 3-4% หลังจากบริษัทหันมารับงานที่ให้มาร์จิ้นสูงขึ้น โดยช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นแล้ว 11% ทั้งปีคาดว่าทำได้ตามเป้าหมาย และปี 56 บริษัทจะพยายามรักษามาร์จิ้นในระดับ 10-15% ไว้ ภายใต้นโยบายการรับงานที่มีมาร์จิ้นต่ำสุด 7% และสูงสุดที่ 15% ส่วนต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น บริษัทสามารถผลักภาระให้ในการรับงานได้