ขณะที่ต้นทุนค่าไฟฟ้าไม่สูงมาก โดยต้นทุนการผลิต 1 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาประเมินจากอัตราผลตอบแทนต่อการลงทุนราว 12-15% และนำมาคำนวณเป็นค่าไฟฟ้า 4.50 บาท/หน่วย ซึ่ง ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องรับภาระค่าไฟฟ้ามากเหมือนการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่แม้จะเป็นพลังงานสะอาด แต่มีต้นทุนค่อนข้างสูง
ปัจจุบัน ภาครัฐให้ค่า adder การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มที่ 6.50 บาท/หน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าจากพลังงานจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน 3.20 บาท/หน่วย จะทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเป็น 9.70 บาท/หน่วย อีกทั้งขณะนี้มีเอกชนยื่นขอรับการส่งเสริมโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สูงถึง 4 พันเมกะวัตต์ จากนโยบายที่จะส่งเสริมทั้งหมด 2 พันเมกะวัตต์
รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานตั้งเป้าหมายในการสนับสนุนโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากหญ้านาเปีย 7 พันเมกะวัตต์ เพื่อจะทำให้สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มเป็น 20% ของทั้งหมดภายใน 10 ปี จากปัจจุบันมีสัดส่วน 1% มาจากพลังงานทดแทน ขณะที่กระแสไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากโรงไฟฟ้าก๊าซราว 67% ส่วนที่เหลือมาจากถ่านหิน 20% และพลังงานน้ำ 5%
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.56 กระทรวงพลังงานจะออกประกาศเกี่ยวกับการลงทุนและวิธีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากหญ้านาเปียร์ ซึ่งจะให้ได้ราคาค่าไฟฟ้า 4.50 บาท/หน่วยตลอด 25 ปี และคาดว่าจะเห็นการผลิตดังกล่าวในปี 58 โดยขณะนี้กระทรวงได้นำร่องโครงการทดลองใน จ.เชียงใหม่ และ จ.นครราชสีมา
นอกจากนี้ ภาครัฐยังได้เจรจากับรัฐบาลพม่าในการเข้าไปผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำในแม่น้ำอิรวดีคาดว่าจะมีกำลังผลิต 7พันเมกะวัตต์ แต่ระหว่างนี้การเจรจายังไม่จบ และทางการพม่ายังมีปัญหากับชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ใกล้เคียง