ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.4% ปิดที่ 279.63 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3643.13 ลบ 3.53 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7581.98 ลบ 32.81 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนที่ 5929.61 ลบ 16.24 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากเบอร์นันเก้เตือนว่า การดำเนินการใดๆของเฟดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการ QE4 นั้นไม่สามารถที่จะชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากภาวะหน้าผาการคลัง หรือมาตรการการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบประมาณค่าใช้จ่ายของรัฐบาลซึ่งจะเริ่มมีผลในเดือนหน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีโอบามาและเจ้าหน้าที่นิติบัญญัตของพรรครีพับลิกันมีความเห็นไม่ลงรอยกัน
“ผมหวังว่ารัฐสภาจะทำในสิ่งที่ถูกต้องในเรื่องหน้าผาการคลัง ปัญหากำลังใกล้จะเกิดขึ้นทุกขณะ และเฟดไม่สามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดจากภาวะหน้าผาการคลังได้ เพราะนั่นเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก" เบอร์นันเก้กล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งล่าสุด เฟดได้ประกาศใช้มาตรการ QE4 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรอบใหม่ในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษที่ 0-0.25% ไปจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่า 6.5%
หุ้นดอยช์ แบงก์ ร่วงลง 2.7% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่า ต้นทุนการปรับโครงสร้างองค์กรที่สูงขึ้นอาจจะทำให้ธนาคารมีผลกำไรน้อยกว่าที่คาดการณ์ในไตรมาส 4 ขณะที่หุ้นยูบีเอส ร่วงลง 1.1%
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการกำกับดูแลภาคธนาคารของยูโรโซนนั้น ล่าสุดนายปิแอร์ มอสโควิซี รมว.คลังฝรั่งเศส กล่าวว่าบรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกลไกกำกับดูแลภาคธนาคารที่เป็นหนึ่งเดียว ร่วมกับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการดังกล่าว
แถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีขึ้นหลังการประชุมรัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป (อียู) ได้ยืนยันรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าอียูได้ดำเนินการก้าวแรกที่มีความสำคัญในการจัดตั้งสหภาพการธนาคาร