(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าเหวี่ยงลงตามภูมิภาค, พักช่วงสั้นรอแก้ไข Fiscal Cliff

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 14, 2012 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณาศิส ประเสริฐสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าน่าจะเหวี่ยงตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ มองเป็นการ Sell on fact หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ได้มีการขยายวงเงินซื้อพันธบัตรออกมาแล้ว และทางยุโรปก็มีการอนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซ ซึ่งสิ่งที่ออกมาต่างเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหา Fiscal Cliff ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นในระหว่างนี้ตลาดฯอาจจะพักตัวก่อนในระยะสั้น แต่ตลาดฯยังมีสิ่งที่ต้องติดตามต่อไปคือการเลือกตั้งในญี่ปุ่น

พร้อมให้แนวรับ 1,345 จุด แนวต้าน 1,361 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(13 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,170.72 จุด ลดลง 74.73 จุด (-0.56%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,419.45 จุด ลดลง 9.03 จุด(+0.63%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,992.16 จุด ลดลง 21.65 จุด(-0.72%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 39.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 48.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 34.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 13.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.37 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.28 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 3.00 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(13 ธ.ค.)1,353.81 จุด ลดลง 0.76 จุด(-0.06%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 959.26 ล้านบาท เมื่อ 13 ธ.ค.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(13 ธ.ค.) ที่ 85.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.88 ดอลลลาร์หรือ 1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(13 ธ.ค.) ปิดที่ 6.3 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.64/66 ทรงตัว แรงซื้อดอลล์กดดันแต่เงินภูมิภาคหนุน
  • แบงก์ชาติ ประเมินผลกระทบ "คิวอี4" ทำสภาพคล่องในตลาดการเงินเพิ่ม ไหลเข้าเอเชีย คาดหลังปีใหม่ เงินไหลเข้าไทยด้าน "กอบศักดิ์" คาด ธปท.เจอศึกหนักต้องหามาตรการสกัดปล่อยสินเชื่อ ขณะตลาดเงิน-ทุนเอเชียขานรับ
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เชื่อว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศขยายมาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณ (คิวอี) รอบที่3 หรือคิวอี 3 พลัส อาจส่งผลกระทบต่อประเทศที่ยังพึ่งพาการส่งออกเป็นสำคัญ ซึ่งรวมถึงไทยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว
  • นายสมเจตน์ ทิณพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทวายดีเวล๊อปเมนต์ (ดีดีซี) ผู้บริหารโครงการทวาย เชื่อว่ารัฐบาลเมียนมาร์พร้อมจะเปิดทางให้มีการแก้ไขสัญญาสัมปทานของฝ่ายเมียนมาร์ให้มีความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาเช่นกัน ขณะเดียวกัน บริษัทอิตาเลียนไทยฯ ผู้ถือหุ้นใหญ่ดีดีซีก็ไม่ขัดข้องและยินดีหากรัฐวิสาหกิจไทย นักลงทุน หรือประเทศต่างๆจะเข้ามาถือหุ้นในดีดีซีเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2556 มีโอกาสเติบโตได้ดี จากปัจจัยการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในประเทศขยายตัวได้ดี รวมถึงมาตรการการลงทุนภาครัฐ ที่มีการประกาศลงทุนโครงการขนาดใหญ่โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโครงการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆบวกกับภาวะการส่งออก ซึ่งปีนี้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในปี 2556 ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะขยายตัวได้ระดับ 4.6%
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กลไกการบริหารงบประมาณแผ่นดินเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งในปีงบประมาณ 2557 รัฐบาลตั้งเป้าว่าน่าจะกำหนดสัดส่วนงบลงทุนไว้ที่ระดับ 17% ของงบประมาณแผ่นดินทั้งระบบ จากเดิมที่กำหนดไว้ประมาณ 25%
  • ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เผยผลสำรวจราคาที่ดินในกรุงเทพมหานคร(กทม.)และปริมณฑลปี 2555 พบว่าราคาที่ดินโดยรวมปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 3.7% ทั้งนี้พื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าทั้งหมดมีราคาปรับสูงขึ้นทั้งหมดเฉลี่ย 12% โดยบริเวณส่วนต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ขึ้นสูงสุด คือ14.9% รองลงมาคือพื้นที่แนวรถไฟฟ้าหัวลำโพง-บางแคเพิ่มขึ้น 14% และบริเวณรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น 11.5%
  • อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาอาหารสัตว์ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาข้อมูลที่ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ขอปรับขึ้นราคาอาหารสัตว์ 5-39% โดยมีการเปรียบเทียบข้อมูลต้นทุนวัตถุดิบของรัฐและเอกชน พบว่าราคาอาหารสัตว์ไม่ได้ปรับขึ้นมาตั้งแต่ปี 2551 ขณะที่วัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้งปลาป่น กากถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
  • แผนแม่บทยานยนต์ฉบับใหม่ ชู 4 แนวคิด เน้นประหยัดพลังงาน ตั้งเป้าใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 50%, นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เผยแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2555-2559) จะชู 4 แนวคิดในการผลิตรถยนต์ คือรถยนต์สีเขียวที่เน้นการใช้พลังงานทางเลือก รถยนต์ที่มีน้ำหนักเบาเพื่อประหยัดพลังงาน รถยนต์ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีระบบไอที เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ แก้ปัญหาการจราจร และรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง โดยจะเสนอแผนให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาและประกาศใช้ต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CK(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เพิ่มเป้าเป็น 14.80 บาท มีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะกลางจากโอกาสรับงานในปี 2556 จากภาครัฐ, แผนการนำ CKP เข้าตลาดทำให้สภาพคล่องดีขึ้น และงานในมือระดับสูงรอรับรู้รายได้ต่อเนื่องเกินกว่า 3 ปี จึงได้ปรับประมาณการและมูลค่าเหมาะสมของ CK เพิ่มเพื่อสะท้อนงานในมือที่เพิ่มสูงขึ้นจากประมาณการเดิม
  • SAMART(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 13.40 บาท มองว่าแผนขยายธุรกิจโดยการซื้อกิจการบริษัทรับสร้างโรงไฟฟ้าที่จะชัดเจนใน 1Q56 รวมถึง งานวางระบบโครงการ 3G TOT เฟส 2 ที่ SAMTEL มีโอกาสได้งานต่อในปีหน้า และการนำบริษัทลูกที่ให้บริการ Call Center เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจะเป็นปัจจัยบวกต่อการเพิ่มมูลค่าหุ้น SAMART ในอนาคต อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่มีผลตอบแทนเงินปันผลสูงราว 4.5% ต่อปี
  • BTS(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 7.57 บาท คาดหลังเสร็จสิ้นการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าราว 5.5—6 หมื่นล้านบาท ใน 1H56 จะส่งผลให้ BTS มีเงินสดส่วนเกินสูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาท และมีความเป็นไปได้ที่จะจ่ายเงินปันผลพิเศษได้เช่นกัน โดยเบื้องต้นคาดจะมีการจ่ายเงินปันผลพิเศษราว 0.80—1.00 บาท/หุ้น รวมทั้งมี Upside Risk จากการปรับเพิ่มค่าโดยสารในปีหน้า หลัง กทม.ได้อนุมัติให้ปรับเพิ่มค่าตั๋วโดยสารได้ไม่เกิน 25% ในปี 2556 โดยพบว่าหากปรับเพิ่มค่าโดยสารขึ้น 10% จะส่งผลให้ราคาเหมาะสมเพิ่มขึ้นเป็น 8.30 บาท
  • ERW(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 5 บาท ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2558-59 ขึ้นอีก 3% สะท้อนโรงแรมใหม่ 2 แห่งที่พัฒนา คาดการณ์รายได้รวมเติบโตแข็งแกร่งที่ 19% ในปี 2558 นอกจากนี้มีอัตราการเข้าพักสูงถึง 78% นับตั้งแต่ต้นไตรมาส 4 จนถึงปัจจุบันและอัตราค่าห้องพักที่เพิ่มสูงขึ้น 15% ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเติบโตถึง 45% ดังนั้นผลประกอบการไตรมาส 4/55 จะพลิกกลับมาเป็นกำไร และกองทุนอสังหาฯของ ERW จะเป็นเครื่องมือทางการเงินในการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นและจะช่วยหนุนแนวโน้มกำไรเติบโตในระยะยาว ทำให้กำไรปี 2556 ทำสถิติสูงสุดใหม่ได้
  • HMPRO(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 14.70 บาท ยอดขายสาขาขยายตัวมากกว่า 10% ในเดือน ต.ค.-พ.ย.และมีโอกาสเห็นการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่สูงกว่า 10% อีกครั้งในไตรมาส 2/56 และ 3/56 อีกทั้งมีแนวโน้มเปิดสาขามากกว่าที่คาด
พร้อมมองกำไรเติบโตสูงสุดในกลุ่มในช่วง 4 ไตรมาสข้างหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ