สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB133A, LB176A และ LB21DA (รุ่นอายุ 0.2 ปี, 4.5 ปี และ 9.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,819 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC13DA) มูลค่า 300 ล้านบาท
2. บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL16OA) มูลค่า 81 ล้านบาท
3. บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (TUF217A) มูลค่า 63 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 444 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 7,473 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 27,547 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 4,815 ล้านบาท
Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 bp ในตราสารอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่กระจุกตัวอยู่ในพันธบัตร ธปท. ระยะสั้นที่ออกประมูลในวันนี้ ทั้งนี้นักลงทุนต่างจับตาดูมาตรการ QE4 ว่าจะส่งผลต่อ Fund Flow ที่จะไหลเข้ามายังภูมิภาคเอเชียหรือไม่ ทางด้านนักลงทุนต่างชาติ มีแรงซื้อในตราสารหนี้ระยะสั้น โดยตลอดทั้งวัน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,815 ล้านบาท