สภาตลาดทุนฯเร่งคลังเกณฑ์รับ FATCA ของสหรัฐ หวั่นกระทบความเชื่อมั่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday December 16, 2012 13:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า จากการหารือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมธนาคารไทย ถึงผลกระทบกรณีสหรัฐได้ออดกกฎหมาย Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA) เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีของคนอเมริกัน โดยการทำธุรกรรมการเงินนอกประเทศ โดยกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้สถาบันการเงินต่างประเทศทุกแห่งนอกสหรัฐ ต้องรายงานข้อมูลบัญชีลูกค้าชาวอเมริกันที่มีรายการในสถาบันการเงินต่างประเทศนั้นให้แก่สรรพากรสหรัฐ (IRS) หากสถาบันการเงินต่างประเทศรายใดไม่ปฎิบัติตาม หรือลูกค้าสถาบันการเงินนั้นไม่ให้ควาทมร่วมมือ จะถูก IRS หักภาษี ณ ที่จ่าย (withholding tax) 30% ของรายได้ที่มีแหล่งจากสหรัฐ

ทั้งนี้สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอต่อกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ดูแลภาพรวมเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของภาคเอกชนรองรับกฎหมายดังกล่าวของสหรัฐ โดย หากไม่มีกฎหมายไทยรองรับเป็นการเฉพาะ จะทำให้สถาบันการเงินไทยไม่สามารถดำเนินการตาม FATCA ได้ เนื่องจากความเสี่ยงทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจของสถาบันการเงินในการหัก withholding tax รวมทั้งการรายงานข้อมูลของลูกค้า ซึ่งเป็นความลับส่วนบุคคล

การออกกฎหมายรองรับ ควรเป็นกฎหมายที่เป็นกลางสำหรับธุรกิจทุกประเภท เนื่องจากสถาบันการเงินทีเข้าข่าย FATCA มีทั้งธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจกองทุนรวม ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจประกันภัย ดังนั้นจึงควรมีองค์กรกลางทำหน้าที่ในการรวบรวมและนำส่งเงินที่ได้จากการหัก withholding tax และรายงาน IRS รองรับกรณีที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย FATCA ในอนาคต ซึ่งจะสะดวกและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าให้สถาบันการเงินแต่ละแห่งดำเนินการเอง

ส่วนการทำสัญญา IRS เพื่อยินยอมเข้าร่วมกฎ FATCA ไทยควรพิจารณาทำสัญญาในระดับรัฐบาลกับรัฐบาล เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายโดยรวม ทั้งในการจัดทำระบบรองรับ และการจ้างที่ปรึกษากฎหมายของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง เนื่องจากการทำสัญญาระดับรัฐบาลกับรัฐบาล จะทำให้การเจรจาต่อรองกับสหรัฐทำได้มากกว่า ซึ่งเรื่องนี้มีหลายประเทศดำเนินการแล้ว และได้รับการยกเว้นไม่ต้องดำเนินการในบางเรื่อง

นายไพบูลย์ กล่าวว่า กฎหมายของสหรัฐ จะมีผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุนและธุรกิจประกัน และอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศ อีกทั้งกระบวนการหัก withholding tax และการรายงานข้อมูลให้ IRS จะมีผลบังคับใช้ในปี 57 ซึ่งเหลือเวลาพิจารณาเพียง 1 ปี

"หวังว่ากระทรวงการคลังและรัฐบาลจะเห็นความสำคัญจากผลกระทบที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ต่อภาคการเงินและเศรษฐกิจโดยรวม หวังว่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้โดยเร่งด่วน" นายไพบูลย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ