ส่วนผลงานในปี 55 คาดว่ารายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 4.35 พันล้านบาท หลังจากช่วง 9 เดือนแรกของปีทำรายได้แล้ว 3.76 พันล้านบาท โดยในไตรมาส 4/55 จะมีการรับรู้รายได้จากงานรับเหมากว่า 600 ล้านบาท จาก backlog งานรับเหมาทั้งหมด 1.7 พันล้านบาท
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุน 4 พันล้านบาทในปี 56 เพื่อใช้ลงทุนในธุรกิจทดแทน ทั้งโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์และพลังงานลม โดยโรงไฟฟ้าห้วยบง จ.นครราชสีมา ขนาด 60 เมกกะวัตต์จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในช่วงแรก 10 เมกกะวัตต์ ภายในเดือน ต.ค.-พ.ค.56 ทำให้บริษัทเริ่มมีรายได้ 14 ล้านบาท/เมกกะวัตต์
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศลาว ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการวัดกระแสลมราว 1 ปี คาดว่าการลงทุนโรงไฟฟ้าในลาวจะมีความชัดเจนก่อนการลงทุนในพม่า เนื่องจากมีสถาบันการเงินพร้อมสนับสนุนแล้ว ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานลมในพม่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการวัดกระแสลม และหาพันธมิตรร่วมทุนเช่นกัน
บริษัทยังเจรจาทำสัญญาขายไฟฟ้า(PPA)จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มเติม ตั้งเป้าในปี 56 จะเจรจาขายไฟฟ้าได้อย่างน้อย 50 เมกกะวัตต์ ขณะที่วางเป้าที่ 100 เมกกะวัตต์ในระยะต่อไป ซึ่งจะทำให้ในปี 58 สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะเปลี่ยนแปลง โดยจะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทน 70% ส่วน 30% เป็นธุรกิจรับเหมาและขายอุปกรณ์ไฟฟ้า จากปัจจุบันรายได้ธุรกิจพลังงานทดแทนอยู่ที่ 50% และใน 5 ปีข้างหน้า เชื่อว่าส่วนของผู้ถือหุ้นจะเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาท จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 2 พันล้านบาท