ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 100.38 จุด หรือ 0.76% ปิดที 13,235.39 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 16.78 จุด หรือ 1.19% ปิดที่ 1,430.36 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 39.27 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 3,010.60 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข่าวที่ว่านายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน เห็นชอบกับข้อเสนอที่ให้มีการขึ้นภาษีกับคนรวย ซึ่งถือเป็นประเด็นหลักของการเจรจาเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง และเมื่อวานนี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และนายโบห์เนอร์ ได้หารือกันในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง ทั้งนี้ บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนธ.ค.ร่วงลงมาอยู่ที่ -8.1 จากระดับ -5.2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ -1.0 บ่งชี้ว่ากิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ซึ่งครอบคลุมถึงตอนเหนือของนิวเจอร์ซีย์และตอนใต้ของคอนเนคติกัต ยังคงอ่อนแอ หุ้นแอปเปิลปิดพุ่งขึ้น 1.77% เนื่องจากราคาหุ้นแอปเปิลยังคงซื้อขายต่ำกว่าระดับ 500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อ โดยราคาหุ้นแอปเปิลร่วงลงหลังถูกซิตี้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนในหุ้น แม้มีรายงานว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสามารถขายไอโฟน 5 ได้มากกว่า 2 ล้านเครื่องในช่วง 2 สัปดาห์หลังการเปิดตัวก็ตาม
หุ้น AIG พุ่งขึ้น 3% ขณะที่หุ้นฮาร์ทฟอร์ด ทะยานึ้น 3.6%
ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทจำหน่ายอาวุธปืนร่วงลง โดยหุ้น Smith & Wesson ร่วงลง 5.2% และหุ้น Sturm Ruger & Co ดิ่งลง 3.5% หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐอาจจะควบคุมการจำหน่ายอาวุธปืน ภายหลังจากเกิดเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมศึกษาแซนดี้ ฮุค เมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเน็คติคัต ส่งผลให้เด็กนักเรียนเสียชีวิต 30 คน และเจ้าหน้าที่โรงเรียนเสียชีวิตอีก 6 คน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดประจำไตรมาส 3/2555 ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสหรัฐจะขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมูลค่า 1.035 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3/2555 ลดลงจากไตรมาส 2/2555 ที่ระดับ 1.174 แสนล้านดอลลาร์