(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้บวกได้ต่อ รับแก้ปัญหา Fiscal Cliff สหรัฐคืบหน้า

ส่วนตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่ยังปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าเป็นประเด็นเฉพาะตัวมากกว่า อย่างกรณีของญี่ปุ่นนั้นตลาดฯยังมองในเชิงบวกว่าพรรคแอลดีพีที่ชนะการเลือกตั้งจะกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณเพิ่มเติม ขณะที่กรณีของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ส่งผลดีต่อประเทศที่เทรดสินค้าโภคภัณฑ์ และค่าเงินอ่อนค่าเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยที่โดดเด่นหนัก

พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวของตลาดหุ้นบ้านเราวันนี้ไว้ที่แนวต้าน 1,385 จุด แนวรับ 1,353 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(17 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,235.39 จุด เพิ่มขึ้น 100.38 จุด (+0.76%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,430.36 จุด เพิ่มขึ้น 16.78 จุด(+1.19%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,010.60 จุด เพิ่มขึ้น 39.27 จุด(+1.32%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 19.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 11.85 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 10.99 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.65 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.85 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.32 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.91 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 5.70 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(17 ธ.ค.)1,359.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.59 จุด(+0.04%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,276.11 ล้านบาท เมื่อ 17 ธ.ค.55
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(17 ธ.ค.) ที่ 87.20 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.47 ดอลลลาร์หรือ 0.5%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(17 ธ.ค.) ปิดที่ 6.3 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.55/60 รอความคืบหน้าการเจรจา Fiscal Cliff
• นายกฯ เยือนทวาย หารือร่วม"เต็ง เส่ง"โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย มั่นใจสรุปรายละเอียดโครงการพร้อมดึงนักลงทุนเดือนเม.ย.2556 เปิดกว้างประเทศที่ 3 เข้าร่วม พม่ายอมเปิดด่านสิงขรเป็นด่านถาวร ด้านไทยรับพิจารณาสร้างถนนเชื่อมต่อมะระแหม่ง พัฒนาเส้นทางรถไฟเก่าด่านสามองค์
• นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า ปีนี้มีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางเข้าไทยอย่างล้นหลาม เฉพาะระหว่างเดือนม.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา มีคนจีนมาเที่ยวไทยแล้วถึง 1.94 ล้านคน คาดว่าทั้งปีจะเข้ามากว่า 2.5 ล้านคน หรือเติบโต 45% เมื่อเทียบกับ 1.7 ล้านคน ในปีที่ผ่านมา
• รองปลัดกระทรวงการคลัง ด้านการจัดเก็บรายได้ กล่าวได้สั่งให้กรมสรรพากรเก็บภาษีกับผู้ประกอบการรถยนต์ ผู้ประกอบการชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งหมด และบริษัทประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากคาดว่าจะมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่มียอดใช้สิทธิถึง 1 ล้านคันเพิ่มจากที่ประเมินไว้ว่าจะมียอดใช้สิทธิประมาณ 8 แสนคันเท่านั้น
• รมว.เกษตรและสหกรณ์ คาดว่าเศรษฐกิจการเกษตรปีนี้จะขยายตัว 4% หลังจากสินค้าเกษตรที่ถูกน้ำท่วมใหญ่กลับสู่ภาวะปกติโดยขยายตัวทุกสาขา ยกเว้นประมงลดลง 2.7% เนื่องจากยอดสั่งซื้อกุ้งลดลงจากปัญหาโรคระบาด ทั้งสหรัฐและยุโรปที่เป็นตลาดส่งออกหลักประสบวิกฤตเศรษฐกิจ
• แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่11 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้เสนอร่างกฎหมายยกเว้นภาษีนิติบุคคลให้ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมเอกชนที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลในการเยียวยาผลกระทบจากน้ำท่วมปี 2554 ให้ ครม.พิจารณาเป็นวาระจร
• รมว.พาณิชย์ กำหนดเป้าหมายการส่งออกปี 2556 ขยายตัว 8-9% มูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่คาดว่าจะขยายตัว 4.17% มูลค่า 2.31 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
• "แบงก์ชาติ"ลุยสานต่อแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี วางคีย์เวิลด์ปีหน้าเน้นการร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดียั่งยืนของคนไทย โดยยึดแผนงาน 4 ด้านผ่านการเชื่อมโยงเศรษฐกิจต่างประเทศเพิ่มโอกาสเติบโตจากภายนอก ขณะที่ภายในเร่งยกศักยภาพแข่งขัน ลุยลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวม

*หุ้นเด่นวันนี้

• KCE(ฟินันเซีย ไซรัส)"เก็งกำไร"ปรับราคาเป้าหมายเป็น 11 บาทจาก 9 บาท คาดกำไรสุทธิ 4Q12 ที่ 205 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนในปีก่อน หากไม่รวมเงินเคลมประกัน 90 ล้านบาทและอื่น ๆ คาดเป็นกำไรปกติที่ 105 ล้านบาท +218% Q-Q, +110% Y-Y สูงสุดของปีนี้ เพราะโรงงาน KCE TECH ผลิตถึงระดับคุ้มทุนแล้ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้นลดส่วนสูญเสียได้ตามแผน จึงปรับกำไรปีหน้าขึ้น 14% เป็น 498 ล้านบาท
• ITD(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 4.80 บาท นายกฯเดินทางกลับจากพม่าเพื่อดูความคืบหน้าโครงการทวายที่ขณะนี้อยู่ในช่วงของการทำงานของคณะทำงานทั้ง 2 ฝ่าย คาด เม.ย. 2013 เห็นความชัดเจนมากขึ้น
• TVO(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 33.25 บาท ราคายังคง Laggard มองเป็นโอกาสในการซื้อลงทุนแม้ว่าผลประกอบการ 4Q55 จะลดต่ำเนื่องจากราคากากถั่วเหลืองลดลงตามฤดูกาล แต่กำไรทั้งปี 2555 จะยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 2 พันล้านบาท คาดจ่ายเงินปันผลได้สูงถึง 1.90 บาท/หุ้น ให้ผลตอบแทนเงินปันผล 8%
• SIRI(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 3.80 บาท กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกทำให้สร้างยอดขายแข็งแกร่ง โดยงวด 11 เดือนมียอดขายรวมกว่า 4.1 หมื่นล้านบาท และยังมีงานในมือสะสมอีก 5 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จึงคาดผลประกอบการใน 4Q54 จะเติบโตโดดเด่น รับรู้รายได้ระดับ 1.หมื่นล้านบาท มีเงินปันผลจ่ายงวดปีที่สูงที่สุดในกลุ่มที่ระดับ 4.5%
• CPF, CPALL และ TUF(เคทีบี)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 40.40, 51 และ 88 บาท ตามลำดับ ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ยังคงเป็น Top Picks ในกลุ่ม โดย CPF คาดผลประกอบการปี 2556 ฟื้นตัวโดดเด่น และได้ประโยชน์ถือหุ้น CPALL ซึ่งสอดคล้องกับราคาหุ้น CPALL ปรับขึ้นโดดเด่นช่วงนี้ ส่วน CPALL และ TUF มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องในปีหน้า