รวมถึง สภาพคล่องในตลาดการเงินโลกที่เพิ่มขึ้นเดือนละ 85 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งพร้อมที่จะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นทุกเมื่อ หากมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผ่านช่วงไตรมาส 1/56 ซึ่งเป็นช่วงที่รอความชัดเจนในเรื่องเกี่ยวกับมาตรการลดหย่อนภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ (Fiscal cliff)
อย่างไรก็ตาม SET index จะสามารถปรับตัวสูงขึ้นเกินเป้าหมายได้ หากมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น ส่วนกรอบด้านล่างของ SET Index ประเมินไว้ที่ระดับ 1240 จุด
สำหรับโอกาสใหม่ของการลงทุนในปี 56 คือ การลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับวัฏจักรของการลงทุนรอบใหม่ของรัฐบาล การบริโภคในเขตที่ไม่ใช่กรุงเทพฯและปริมณฑล และการลงทุนในธุรกิจที่ต่อเนื่องจากการให้ใบอนุญาต 3G หลังจากหุ้นที่เกียวข้องกับการบริโภค และมีความปลอดภัยสูง อย่างเช่น หุ้นค้าปลีก โรงพยาบาล ได้มีการปรับตัวขึ้นมามากติดต่อกันหลายปีแล้ว โดยหุ้นเด่นที่จะแนะนำสำหรับปี 56 ได้แก่ ASK, HMPRO, KTB, LOXLEY, MAJOR, PS และ SCC
นายสุกิจ กล่าวถึงกลยุทธ์การลงทุนในปีหน้าว่า ช่วงไตรมาส 1/56 แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ มีเงินปันผลสูง เนื่องจาก เศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอน ส่วนไตรมาส 2/56 ถือเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรเศรษฐกิจโลกมากขึ้น เช่น หุ้นพลังงาน หุ้นปิโตรเคมี และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีโอกาสการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงการลงทุนในหุ้นดังกล่าวลดลง