ที่ประชุมผู้ถือหุ้น BTS วันนี้อนุมัติการขายรายได้ค่าโดยสารในอนาคตที่อายุสัญญสัมปทานเหลืออยู่ 17 ปี(สิ้นสุด 4 ธ.ค.72)ของบมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTSC) (BTS ถือหุ้นในสัดส่วน 97.46%) จะได้รับจากการเดินรถไฟฟ้าสายหลัก คือสายสุขุมวิทและสายสีลมระยะทางรวม 23.5 กม.ให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน(BTSGIF)
พร้อมทั้ง การเข้าทำสัญญาหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องพร้อมอนุมัติการเข้าสนับสนุนและค้ำประกันการจำนำหุ้น BTSC และการทำข้อตกลงจะซื้อจะขายหุ้น BTSC ให้แก่กองทุนฯ ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาสนับสนุนและค้ำประกันของผู้สนับสนุนสัญญาจำนำหุ้นและสัญญาจะซื้อจะขายหุ้น รวมทั้งอนุมัติให้ BTS เข้าจองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนฯ จำนวน 1 ใน 3 ของหน่วยลงทุนทั้งหมดหรือคิดเป็นเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 16,667 ล้านบาท
บริษัทรายงานต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น BTS ในวันนี้ว่า บริษัทสนใจกิจการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมสองเส้นทางมีระยะทาง 25 กม.จำนวนสถานี 21 สถานี มูลค่าเงินลงทุน 64,543 ล้านบาท คาดจะเปิดประมูลภายในปี 56 และคาดเปิดให้บริการ เม.ย.60
ทั้งนี้ เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับเส้นทางที่บริษัทให้บริการในปัจจุบัน หากได้งานการเดินรถ 2 เส้นทางนี้จะทำให้บริษัทได้เปรียบเพราะช่วยลดต้นทุน การให้บริการมีคุณภาพและเพิ่มจำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวเดิม
บริษัทยังสนใจงานเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม.มีจำนวนสถานี 30 สถานี มูลค่าเงินลงทุน 42,101 ล้านบาท คาดเปิดประมูลภายในปี 56 และจะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค.60 เส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อสถานีวงเวียนหลักสี่ และ รถไฟฟ้าขนาดเบาเส้นทางบางนา-สุวรรณภูมิระยะทาง 18 กม.จำนวนสถานี 15 สถานี มูลค่าลงทุน 2.5 หมื่นล้านบาท คาดเปิดให้บริการในปี 60 ซึ่งขั้นตอนอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร BTS กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานภายในเดือน ก.พ.56 โดยจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายกองทุนโครงสร้างพื้นฐานไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนขยายงานเดินรถไฟฟ้า และเงินลงทุนส่วนที่เหลือหรือประมาณ 2 ส่วนใน 3 ส่วนของมูลค่าโครงการจะมาจากเงินกู้
ตัวแทน บล.ภัทร ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน แจ้งต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า หากคำนวณจากราคาขายสินทรัพย์เข้ากองทุน 5 หมื่นล้านบาท บริษัทจะมีเงินสด 22,695 ล้านบาทในการลงทุน หลังจากนำเงินเพื่อเป็นเงินฝากเพื่อรองรับการค้ำประกันหุ้นกู้ของ BTSC จำนวน 10,638ล้านบาทและเป็นเงินลงทุนในกองทุนฯ 1 ใน 3 หรือ 33.33% จำนวน 16,667ล้านบาท และหากมีราคาขาย 6 หมื่นล้านบาท บริษัทก็จะได้เงินสดเพื่อนำไปลงทุนจำนวน 29,362 ล้านบาท
"บริษัทจะใช้เงินสดไปลงทุนโครงการขนส่งมวลชน 4 เส้นทางที่บริษัทให้ความสำคัญและหากมีเงินเหลือและมีสภาพคล่องดี BTS มีแผนจะเสนออนุมัติเงินปันผลพิเศษ"ตัวแทน บล.ภัทรกล่าว