เนื่องจากบริษัทมีความมั่นใจกับกระแสการตอบรับของกลุ่มลูกค้าในจังหวัดต่างๆ จากความสำเร็จในการทยอยปิดการขายโครงการใหม่ๆ ในทุกจังหวัดได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ทั้งใน หัวหิน ภูเก็ต เขาใหญ่ เชียงใหม่ พัทยา และขอนแก่น ซึ่งเป็น 6 จังหวัดหัวเมืองหลักทั่วประเทศ
ล่าสุดบริษัทยังได้เตรียมประกาศปิดการขายคอนโดมิเนียมโครงการที่ 2 ใน จ.เชียงใหม่ "dVIENG Santitham"(ดีเวียง สันติธรรม) จำนวน 264 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 712 ล้านบาท ซึ่งเปิดขาย (Pre-Sale)ในช่วงที่ผ่านมา ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท ซึ่งปรากฏว่าสร้างยอดขายที่ดีต่อเนื่องจากโครงการแรก จึงคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สามารถปิดการขายโครงการได้ภายในปลายปีนี้
บริษัทประสบความสำเร็จจากการทยอยเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและปิดการขายได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ทั้งในทำเลหัวหิน ซึ่งนับว่าบริษัทครองความเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมตากอากาศมายาวนาน โดยโครงการที่ได้รับการตอบรับสูงรวมทั้งประสบความสำเร็จในปีนี้ ได้แก่ บ้านคุ้นเคย-บ้านคู่เคียง-บ้านอิ่มเอม-ซัมเมอร์-ออทัมส์-เชโลน่า เขาเต่า
และโครงการล่าสุด บ้านเพียงเพลิน ซึ่งมียอดขายแล้วถึง 67 % รวมถึงโครงการที่ขยายการพัฒนาในโซนชะอำ - หัวหิน อาทิ บ้านแสนคราม และบ้านแสนงาม เป็นต้น นอกจากนี้ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ บริษัทยังได้เตรียมแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมตากอากาศในทำเล ชะอำ - หัวหินเพิ่มเติมอีก 1 โครงการอีกด้วย
ส่วนในจังหวัดภูเก็ต เริ่มต้นจากการพัฒนาคอนโดมิเนียมแบรนด์“ดีคอนโด"สามารถปิดการขายภายในเวลารวดเร็ว อาทิ ดีคอนโด กะทู้ ปิดการขาย 556 ยูนิตภายในครึ่งวันของการเปิดพรีเซลล์วันแรก และ ดีคอนโด กะทู้-ป่าตอง ปิดการขาย 653 ยูนิตได้ภายใน 1 วัน ของการเปิดพรีเซลล์
หลังจากนั้น บริษัทเปิดตัวโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์"ฮาบิเทีย"เป็นบ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น และ"ฮาบิทาวน์" ทาวน์เฮาส์สไตล์โมเดิร์น เพื่อตอบรับกระแสความต้องการของกลุ่มคนทำงานหรือนักธุรกิจที่ต้องการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ที่มีดีไซน์ตอบสนองชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว โดยสามารถปิดยอดขายไปได้กว่า 84% และ 71% ตามลำดับในปัจจุบัน
ตามด้วย ดีคอนโด ครีก 806 ยูนิตที่มียอดขายแล้ว 93% และ ดีคอนโด ไมน์ ทุบสถิติปิดการขาย 436 ยูนิต ใน 1 ชั่วโมงที่เปิดพรีเซลล์ ล่าสุดบริษัทยังได้เตรียมเปิดตัว ดีคอนโด โครงการใหม่ ตั้งอยู่ที่บ้านกู้กู บนถนนรัษฎานุสรณ์เพิ่มเติมอีก1โครงการใน จ.ภูเก็ต เร็วๆ นี้อีกด้วย รวมถึงคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะ เบส" เริ่มต้นด้วย เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ - ภูเก็ต จำนวน 311 ยูนิต ที่ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว และเดอะ เบส อัพทาวน์ - ภูเก็ต ซึ่งมียอดขายแล้ว 50%
นอกจากนี้ในจังหวัดอื่นๆ บริษัทยังประสบความสำเร็จ ทั้งจากโครงการ 23 องศา เอสเตท อันประกอบด้วย คอนโด - วิลล่า และโรงแรม ภายใต้พื้นที่รวม 45 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 2,500 ล้านบาทในทำเลเขาใหญ่ ปิดการขายเฟสแรกภายใน 1 วัน ส่วนวิลล่าระดับราคา 19.9 -31.45 ล้านบาท 9 ยูนิต ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เหลือเพียง 1 ยูนิตเท่านั้น ขณะที่โรงแรมขนาด 48 ห้อง 5 Pool Villa มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาทคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปลายปีหน้า รวมถึง‘The Valley’(เดอะ วัลลีย์) คอนโดมิเนียมโครงการ 2 จำนวน 236 ยูนิต สร้างยอดขายได้แล้วถึง50%
ส่วนที่พัทยา บริษัทสร้างยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศ ในชื่อบ้านปลายหาด วงศ์อมาตย์ ได้แล้ว 40% ขณะที่ จังหวัด ขอนแก่น ซึ่งนับเป็นการเปิดโครงการเป็นครั้งแรกในหัวเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริษัทก็สามารถปิดการขาย คอนโดมิเนียมแบรนด์ THE BASE ในชื่อโครงการ เดอะ เบส ไฮท์ มิตรภาพ - ขอนแก่น ความสูง 36 ชั้น จำนวนเกือบ 1 พันยูนิต ได้ทันทีในการเปิดพรีเซลล์เป็นวันแรก
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากปิดการขาย ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท 546 ยูนิตภายในเวลา 1.5 ชั่วโมง ล่าสุดบริษัทเปิดตัวคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองเป็นโครงการที่ 2 ต่อเนื่องชื่อโครงการ ‘dVIENG Santitham’ (ดีเวียง สันติธรรม) หลังจากเปิดการขายในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค.ได้รับการตอบรับดีเช่นเดียวกับโครงการแรก และคาดว่าจะสามารถปิดการขายในช่วงปลายปีนี้