ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 102.4 จากระดับ 101.4 ในเดือนพ.ย. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในยุโรป ยังคงปรับตัวดีกว่าประเทศอื่นๆในยูโรโซน ท่ามกลางวิกฤตหนี้ภูมิภาค
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซสู่ระดับ B- โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ จากเดิมที่ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" ซึ่งการดำเนินการของ S&P ในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากมีความคืบหน้าในช่วงบวกในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินกรีซ เช่น การที่ยูโรกรุ๊ปอนุมัติการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลืองวดต่อไป และแผนการซื้อคืนตราสารหนี้ที่ประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง หรือภาวะที่มาตรการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบรายจ่ายขนาด 6 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐอาจจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ยอมรับข้อตกลงการขึ้นภาษีประชาชนที่มีรายได้กว่า 400,000 ดอลลาร์
หุ้น HSBC พุ่งขึ้น 2% ขณะที่หุ้นธนาคารเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ทะยานขึ้น 10%
ส่วนหุ้นเมิร์กในกลุ่มเวชภัณฑ์ ร่วงลง 2.1%