(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐานลงในกรอบแคบ ระหว่างรอปัจจัยจากตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 20, 2012 09:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐานกรอบแคบ โดยมองว่านักลงทุนอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากต่างประเทศใน 2 เรื่อง คือ เรื่องของการเจรจางบประมาณของสหรัฐฯ หรือ Fiscal Cliff ว่าจะมีทางออกอย่างไร ซึ่งนักลงทุนคาดหวังว่าจะมีทางออก แต่ขณะที่ยังรอความชัดเจนออกมาจากทางผู้นำสหรัฐฯ ตลาดหุ้นก็ยังจะผันผวนไปตามกระแสข่าว

และนักลงทุนยังรอผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) เช้านี้ ต้องรอดูว่าจะมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงินออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากที่สหรัฐฯ ได้มีการทำ QE4 ไป ก็จะต้องรอดูว่าทางญี่ปุ่นเองจะตอบสนองอย่างไร

พร้อมให้แนวรับ 1,370-1,374 จุด แนวต้าน 1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(19 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,251.97 จุด ลดลง 98.99 จุด (-0.74%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,435.81 จุด ลดลง 10.98 จุด(-0.76%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,044.36 จุด ลดลง 10.17 จุด(-0.33%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 67.29 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 20.38 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 31.34 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.32 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 0.82 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.37 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 1.90 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(19 ธ.ค.)1,378.40 จุด เพิ่มขึ้น 15.46 จุด(+1.13%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,029.68 ล้านบาท เมื่อ 19 ธ.ค.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(19 ธ.ค.) ที่ 89.51 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลลาร์หรือ 1.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(19 ธ.ค.) ปิดที่ 6.2 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.61/63 ไร้ปัจจัยหนุน-รอผลประชุม BOJ
  • ธนาคารโลกประเมินแนวโน้มราคาข้าวโลก รัฐบาลเลี่ยงขาดทุนจำนำข้าว คาดปีละ 1.5 แสนล้าน หรือ 1.3% ของจีดีพี ห่วงต้นทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปีนี้สูงถึง 3.76 แสนล้านบาท เทียบเท่า 3.8% ของจีดีพี ส่วน ปีหน้าต้องใช้งบถึง 4.5 แสนล้านบาท แนะจัดสรรงบช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย-เร่งพัฒนาพันธุ์ข้าว
  • "คลัง"มั่นใจบริหารจัดการหนี้สาธารณะได้ ไม่มีปัญหา ด้าน"ทีดีอาร์ไอ"ชี้ประชานิยมปัจจัยเสี่ยง ฉุดเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าเป้าหมาย"สถาบันอนาคตไทย"จับตาอัตราการเพิ่มของหนี้ ย้ำก่อหนี้เพื่อลงทุนเป็นยากระตุ้น แต่ถ้าไม่เกิดผลผลิตรอเวลาระเบิด ด้านจุฬาฯกังวลก่อหนี้ซ้ำรอยวิกฤติยุโรป
  • รมว.พลังงาน กล่าวหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุมกบง.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี ภาคครัวเรือน เพื่อทำหน้าที่กำหนดแนวทางลดผลกระทบหลักเกณฑ์และคุณสมบัติผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาแอลพีจีเริ่มเดือน ก.พ.2556 โดยเพิ่มจำนวนการช่วยเหลือจาก 4 ล้านครัวเรือนเป็น 9 ล้านครัวเรือน ซึ่งจะใช้เงินในการช่วยเหลือกว่า 6,000 ล้านบาท
  • น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย กล่าวว่าหนี้สาธารณะของไทยในปี 2556 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 45% ในปีนี้ ไปอยู่ในระดับ 50% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) หากรัฐบาลยังดำเนินโครงการประชานิยมไม่ยอมหยุดหนี้สาธารณะจะสูงจนเกินไป
  • คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย มีมติอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 39 โครงการมูลค่าการลงทุนรวม 3.14 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็นการอนุมัติภายใต้มาตรการ เพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย32 โครงการ มูลค่า 2.79 หมื่นล้านบาทในจำนวนนี้มีเพียงโครงการเดียวที่ย้ายที่ตั้งใหม่ คือ บริษัท ไอเอ็ม อิเล็กทรอนิกส์ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ย้ายไปจ.สมุทรปราการ
  • เวิลด์แบงก์ทบทวนเศรษฐกิจไทยปีหน้าโตได้ 5% ส่งออกฟื้น-รัฐอัดฉีดผ่านโครงการน้ำท่วม เตือนรับจำนำข้าวขาดทุนอย่างต่ำๆกว่าแสนล้าน ลากแบงก์เฉพาะกิจรับภาระไปด้วย แนะโยกเงินพัฒนาอย่างยั่งยืน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AOT (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 96 บาท คาดว่าระยะสั้นจะได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจท่องเที่ยวที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดยล่าสุดในเดือน พ.ย. จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20% เป็น 2.3 แสนคนต่อวัน ทำให้เที่ยวบินขึ้นลงที่สนามบินเพิ่มขึ้นสูง คาดแนวโน้มรายได้ใน 4Q55 จะแข็งแกร่ง ขณะที่การพิจารณาการปรับขึ้นค่าใช้บริการสนามบินน่าจะได้รับการอนุมัติภายในเดือน ธ.ค. นี้จะเป็นบวกต่อผลประกอบการในปี 2556 และเพิ่มมูลค่าหุ้นอีก 11 บาท
  • PTTEP (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 177 บาท ราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกหลังการเพิ่มทุนผ่านไปด้วยดี แม้ว่าจะมี Dilution จากการเพิ่มทุนแต่คาดว่า EPS ปี 2556 จะเติบโต 15% YoY จากราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มหลังปรับราคาก๊าซฯขึ้น ประกอบกับ ยอดขายที่สูงขึ้นจากการเริ่มดำเนินการของโครงการมอนทารา ทำให้เชื่อว่ายอดขายรวมปี 56 เติบโต 16.2% ราคาหุ้นถูกมากเมื่อเทียบกับธุรกิจ E&P ที่มีขนาดใกล้เคียงกันในภูมิภาค
  • BCP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 33 บาท แนวโน้มผลประกอบการ 4Q55 คาดว่าจะออกมาดีกว่ากลุ่มโรงกลั่นที่มีแนวโน้มผลประกอบการลดลง QoQ หลังไม่มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันจำนวนมาก และมีโอกาสดีกว่าตลาดประเมินไว้ เนื่องจากค่าการกลั่นที่คาดจะสูงกว่าเคยประเมินไว้ที่ 8 เหรียญต่อบาร์เรล และการรับรู้ผลบวกจากประกันความเสียหายบางส่วน คาดผลประกอบการของ BCP จะโดดเด่นกว่ากลุ่มต่อเนื่องไปใน 1Q56 จากการรับรู้การผลิตหน่วยกลั่นที่ 3 อย่างเต็มที่ และการรับรู้โครงการโซลาร์ฟาร์มเฟส 2 ที่จะเปิดดำเนินการในช่วงกลาง 1Q56
  • DCON(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ" ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 10.60 บาทจากเดิม 9.80 บาท จากการปรับกำไรปีนี้ขึ้น 9% เป็น 140 ล้านบาท(โต 69%)และปีหน้าปรับเพิ่ม 8% เป็น 168 ล้านบาท (โต 20%) เพราะรายได้จากธุรกิจวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มดีกว่าคาด และจะมีกำลังการผลิตแผ่นพื้นคอนกรีตเพิ่มขึ้นอีก 20% กลางปีหน้า และยังมีแผนเปิดโครงการคอนโด หนุนรายได้ตั้งแต่ปลายปี 2014 เป็นต้นไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ