การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,381.38 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,372.52 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 251 หลักทรัพย์ ลดลง 323 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 153 หลักทรัพย์
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้อยู่ในแดนลบหลังจากได้ปรับตัวขึ้นมาแรงกว่าตลาดภูมิภาคในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ซึ่งตลาดฯมีความเคลื่อนไหวคล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่มีทั้งแดนบวก-ลบสลับกัน
เนื่องจากการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐฯยังไม่มีความชัดเจน และอาจจะล่าช้าไปจนถึงสัปดาห์หน้า ทำให้ตลาดมีแรง take profit ออกมา ทั้งนี้ ระยะสั้นมองว่าตลาดฯน่าจะแกว่งตัวในแดนลบ แต่ก็ยังเป็นโอกาสของนักลงทุนในการเข้าซื้อ
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาโดดเด่นกว่าตลาดภูมิภาคช่วง 2 วันที่ผ่านมา มาจากการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ที่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง และปัจจัยในประเทศที่เริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจาก ครม.ออกมติให้นำไปศึกษาก่อน และมาตรการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้ผู้มีเงินได้มีภาระภาษีลดลง จึงจะช่วยกระตุ้นการบริโภคมากขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(21 ธ.ค.)นายกิจพล กล่าวว่า ถ้ามีปัจจัยลบมาจากสหรัฐหรือยุโรป ตลาดฯก็มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงมาแถวระดับ 1,365 จุด แต่มองเป็นจุดซื้อที่ดี พร้อมแนะนำให้นักลงทุนทยอยตั้งรับหุ้นขนาดใหญ่ที่นักลงทุนสถาบันยังมีการถือครองน้อย ได้แก่ PTTEP, KTB หรือโฟกัสหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบดีขึ้น อย่างเช่น SPCG, NMG, THAI พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,365-1,382 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
UV มูลค่าการซื้อขาย 1,840.68 ล้านบาท ปิดที่ 9.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
BAY มูลค่าการซื้อขาย 1,676.02 ล้านบาท ปิดที่ 32.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
NMG มูลค่าการซื้อขาย 1,514.25 ล้านบาท ปิดที่ 1.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.21 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,505.23 ล้านบาท ปิดที่ 46.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,398.32 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท