สำหรับธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทสื่อโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 40% จากมูลค่าตลาดรวมที่ 5 พันล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจดังกล่าวปกติจะเติบโตปีละ 10% ทำให้บริษัทจะพยายามขยายช่องทางจำหน่ายสินค้ามากขึ้น ซึ่งผลอีกส่วนหนึ่งก็จะทำให้นักลงทุนมั่นใจในหุ้นของบริษัทด้วย
ส่วนราคาหุ้นที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้เป็นวันแรกเปิดตลาดที่ราคา 3.52 บาท จากราคาสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) ที่ 1.90 บาท เพิ่มขึ้น 86% สะท้อนพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่ง และผลกำไรมีแนวโน้มเติบโต ทำให้นักลงทุนมองถึงอนาคตทางธุรกิจที่มุ่งสื่อออนไลน์มากขึ้น เช่น การดาวน์โหลด ธุรกิจทีวีดาวเทียม ซึ่งต้องการใช้คอนเท้นท์ทั้งหมด บริษัทยังอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเพื่อทำธุรกิจทีวีดาวเทียมคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 56
นายสามารถ กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอคณะกรรมการบริษัทในเดือน มี.ค.56 เพื่อพิจารณาจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการปี 55 โดยหลังการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ทำให้บริษัทไม่มีหนี้สิน ซึ่งระดับหนี้สินต่อทุน (DE) ลดลงเหลือ 0 จากก่อนระดมทุนอยู่ที่ 0.5 เท่า ทำให้บริษัทมีความสามารถในการจ่ายปันผลมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทกำหนดนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ