ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 280.95 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,661.40 จุด ลดลง 5.33 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,636.23 จุด ลดลง 35.87 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,939.99 จุด ลดลง 18.35 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเนื่องจากการเจรจาเรื่องงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐยังคงยืดเยื้อต่อไป หลังจากบรรดาผู้นำของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงมติรับแผนการของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เสนอให้มีการขึ้นภาษีสำหรับผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอจากภายในพรรคที่จะทำให้ผ่านการลงคะแนนได้
ทั้งนี้ ผู้นำพรรครีพับลิกันได้แจ้งต่อสมาชิกสภาผู้แทนฯในที่ประชุมว่า การลงมติร่างกฎหมายดังกล่าวได้ถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันคริสต์มาสปีนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาด 0.7% ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทหลายแห่งในสหรัฐมีแผนที่จะขยายธุรกิจในปีหน้า
นอกจากนี้ รายงานของกระทรวงยังระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือนที่ผ่านมาสามารถขยายตัวเพราะได้รับปัจจัยหนุนจากยอดสั่งซื้อเครื่องจักรและยานยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยการลดลงของยอดสั่งซื้อเครื่องบิน
หุ้นแอโรพอร์ท เดอ ปารีส ดิ่งลง 5.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการก่อนหักดอกเบี้ย ขณะที่หุ้นอาร์เซลอร์มิททัล ร่วงลง 2.5%
หุ้น ENRC ซึ่งเป็นผู้ผลิตโลหะของคาซั8สถาน ร่วงลง 1.4% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว