(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซบเซา เหตุนักลงทุนต่างชาติชะลอลงทุนช่วงวันคริสต์มาส

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 24, 2012 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะซบเซาในกรอบแคบๆ โดยมองว่านักลงทุนต่างชาติอยู่ระหว่างชะลอการลงทุนในช่วงวันหยุดคริสต์มาส และยังรอเรื่องความแน่นอนของการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ว่าจะมีทางออกอย่างไร นักลงทุนยังคงรอความชัดเจนอยู่

พร้อมให้แนวรับ 1,368-1,370 จุด แนวต้าน 1,375-1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(21 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,190.84 จุด ลดลง 120.88 จุด(-0.91%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,430.15 จุด ลดลง 13.54 จุด(-0.94%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,021.01 จุด ลดลง 29.38 จุด(-0.96%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 11.58 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.52 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.76 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 3.39 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.97 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.10 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระจักรพรรดิ์ ขณะที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุด

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(21 ธ.ค.)1,373.38 จุด ลดลง 4.02 จุด(-0.29%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 247.62 ล้านบาท เมื่อ 21 ธ.ค.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(21 ธ.ค.)ที่ 88.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.47 ดอลลลาร์หรือ 1.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(21 ธ.ค.) ปิดที่ 7.1 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.62/64 ยังติดตามการแก้ปัญหา Fiscal Cliff
  • "พาณิชย์" ติดเบรกห้ามผู้ประกอบการอ้างค่าแรงขึ้นราคาสินค้าชี้รายใหญ่ไม่กระทบ เพราะปรับค่าแรงไปก่อนหน้าแล้ว ส่วน SMEs กระทบ 2.24-6.74% ภาคเกษตรหนักสุด ตามด้วยสิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์เครื่องหนัง หมู ไข่ ภาคขนส่ง และการให้บริการ
  • นายธนาวิทย์ โชติชัยสถิตย์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ต่างจังหวัด ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าเกษตรของไทยหลายชนิด เช่น ส้มกล้วย ลำไย ประสบปัญหาถูกกีดกันทางการค้าจากอินโดนีเซีย มาเลเซียและจีน ด้วยการปฏิเสธการรับสินค้า หรือแกล้งให้สินค้าต้องไปลงในท่าเรือห่างไกลต้องใช้เวลาขนส่งนานขึ้น ทำให้สินค้าด้อยคุณภาพและไม่สามารถขายได้ในราคาที่ควรจะเป็น
  • "ดิเรก ลาวัณย์ศิริ" ประธานกรรมการกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยถึงแนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) รอบเดือน ม.ค.-เม.ย. 2556 จะปรับเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10 สตางค์ (สต.)/หน่วย
  • เผยผลสำรวจ "กองทุนหุ้นไทย" หลังวิกฤติ การเงินโลก ระยะ 3 ปีกับ 5 ปี ผลงานยังเด่น 3 ปี รีเทิร์น 100 % โดย บลจ.บัวหลวง แชมป์ รุ่น 3 ปี ผลตอบแทน 166.89% ขณะที่ บลจ.กรุงศรี แชมป์รุ่น 5 ปี ผลตอบแทน 147.89% ด้าน สมาคม บลจ. ชูการลงทุนระยะยาวในหุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ดีกว่า รุกเดินหน้าทำการตลาดมุ่งให้ความรู้นักลงทุน
  • แบงก์ชาติระบุกำลังศึกษากฎหมาย FATCA ของสหรัฐฯ พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลและข้อกฎหมาย เพื่อเสนอให้คลังประสานไปยังภาครัฐ ระบุควรทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ ส่วนจะเลือกให้ข้อมูลฝ่ายเดียวหรือแลกข้อมูลระหว่างกัน ขึ้นกับการเจรจาตกลงระหว่างรัฐบาล
  • บอร์ด รฟม.เคาะประมูล 4 สัญญา สร้างรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม (หมอชิต-คูคต) 2.65 หมื่นล. ชง ครม.หวังขายซองต้นปี 56 พร้อมเดินหน้าแผนจัดการหนี้เงินเยน 8 หมื่นล. CFO เผย ตกลงร่วมสบน.ใช้ 2 รูปแบบ สวอปและรีไฟแนนซ์ เชื่อใน 2 ปีการเงินมั่นคงลดขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน เตรียมรีไฟแนนซ์ก้อนแรก หมื่นล.

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BAY(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 36.75 บาท แม้ยังไม่มีการประกาศรายชื่อว่าใครจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้น 25.3% ใน BAY แทน GE แต่มีความเป็นไปได้สูงที่การซื้อขายหุ้นจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ มองว่าหลังจากที่ได้พันธมิตรรายใหม่แล้วจะเป็นการปลดล๊อคความกดดันราคาของหุ้น BAY ให้กลับมาบนปัจจัยพื้นฐานเพิ่มมากขึ้น สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ 4Q55 คาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดดจากปีก่อนอย่างมาก เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นมากตามการขยายตัวของธุรกิจ
  • CK(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 14.80 บาท จะบันทึกกำไรพิเศษราว 2,300 ล้านบาทใน 1Q56 จากการขายหุ้น TTW ให้ BECL ในราคาหุ้นละ 7.55 บาท สูงกว่าต้นทุนที่ CK ซื้อมาราคาหุ้นละ 2.11 บาท การขายหุ้นออกไปจะทำให้ CK มีสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน(Net Gearing) สิ้นปี 2556 ลดลงจาก 2.5 เท่า เหลือเพียง 1.2 เท่า นอกจากนี้แผนการนำ CKP เข้าตลาด และโอกาสรับงานจากภาครัฐ รวมถึงภาคเอกชน จะช่วยสร้างรายได้ CK ได้ในอนาคตระยะยาว
  • TCAP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"หุ้น TCAP เป้า 47.50 บาท สินเชื่อเดือน พ.ย. โต +2.6% mom และ Ytd โต +16.4% ตามการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และการเข้าสู่ High Season ของความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจใน 4Q55 และ TBANK ได้ขาย TLIFE ให้กับบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต มูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านบาท โดยคาด TCAP จะบันทึกกำไรพิเศษสูงถึง 6.6 พันล้านบาท ใน 1Q56 รวมทั้งมี Downside Risk ค่อนข้างจำกัด จากโครงการซื้อคืนหุ้นในช่วง 11 ธ.ค. 2555 — 10 มิ.ย.2556 และมี Valuation ที่ค่อนข้างถูก
  • กลุ่มยานยนต์(ฟินันเซีย ไซรัส)แนะ"Overweight"แม้ Sentiment เชิงบวกอาจลดลงจากการสิ้นสุดโครงการรถคันแรก แต่ยอดผลิตรถยนต์ปี 2013 ที่คาดโตราว 6-7% เป็น 2.6 ล้านคันและแตะ 3 ล้านคันในในอีก 3 ปีข้างหน้า ทำให้กำไรปกติของกลุ่มยานยนต์น่าจะเติบโต 19%(หลายบริษัทยังคงทำกำไรได้สูงเป็นประวัติการณ์) ดีกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งตลาดฯ ที่คาดโต 15% และ upside เฉลี่ยของกลุ่มยานยนต์ยังสูงกว่า 30% ราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีดังกล่าว Top Picks ได้แก่ AH (เป้า 27.50 บาท) และ SAT (เป้า 38 บาท)
  • หุ้นใน SET50/SET100 ชุดใหม่ มีผล 2 ม.ค. 2013 หุ้นที่เข้าคำนวณใน SET50 คือ JAS, KK, TTW หุ้นที่ถอดออกคือ DCC, TPIPL, HEMRAJ ส่วน SET100 หุ้นที่เข้าคำนวณคือ AAV, ROJNA, SPCG, SSI, THRE, WORK หุ้นที่ถอดออกคือ ASP, HANA, KBS, KGI, LHBANK, MCOT มีผลตั้งแต่ 2 ม.ค. — 30 มิ.ย. 2556 (ฟินันเซีย ไซรัส)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ