ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 38,569 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 24, 2012 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ 38,569 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 3,581 ล้านบาท กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,669 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ เท่ากับ 174 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.18% ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันทำการก่อนหน้า

ตลาดตราสารหนี้ไทยในวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 38,569 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 28,304 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 73.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 5,369 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 13.9% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,608 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB133A LB21DA และ LB15DA (รุ่นอายุ 3 เดือน, 9.0 ปี และ 3.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 3,282 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ

1. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP135A) มูลค่า 806 ล้านบาท

2. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP195A) มูลค่า 312 ล้านบาท

3. บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC16NA) มูลค่า 270 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,388 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 3,581 ล้านบาท

2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,669 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 174 ล้านบาท

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ปรับตัวค่อนข้างคงที่ในทุกช่วงอายุของตราสาร ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายปีและใกล้เทศกาลวันหยุดยาว โดยนักลงทุนยังคงรอดูแนวทางแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐ และปัญหาเศรษฐกิจยุโรป ด้านนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 174 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ