(เพิ่มเติม) อัคคีปราการ ตั้งเป้ารายได้ปี 56 โต 30-40% ตามปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 25, 2012 16:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.อัคคีปราการ(AKP) บริษัทลูกของ บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG) เตรียมเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)ภายในไตรมาส 1/56 พื่อนำเงินมาใช้ในการลงทุนเพิ่มเติม และอีกส่วนหนึ่งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยบริษัทมีแผนเพิ่มรถขนส่ง 15-20 คัน และซื้อภาชนะจัดเก็บ เพิ่มอีก 50 ลูกในปีหน้า พร้อมตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่อง 30-40% จากปีนี้ ตามปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี

ข้อมูล ล่าสุดเมื่อ 7 พ.ย.54 BWG เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน"อัคคีปราการ"ด้วยจำนวนการถือหุ้น 206.79 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็น 64.62% ภายหลังจากเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 51.18%

บริษัทฯเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 84 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท โดยจัดสรรให้แก่ BWG ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน AKP สัดส่วน 64.62% เป็นจำนวนไม่เกิน 21 ล้านหุ้น ที่เหลืออีกไม่ต่ำกว่า 63 ล้านหุ้น จะจัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยบริษัทจะระดมทุนมาใช้เป็นเงินลงทุน 80% โดยจะนำไปใช้ซื้อรถขนขยะเพิ่ม 15-20 คัน จากปัจจุบันมีอยู่ 14 คัน มูลค่า 5-6 ล้านบาท/คัน และใช้ซื้อภาชนะจัดเก็บ(Storage Tank) จำนวน 50 ลูก ปัจจุบันมี 3 ลูก มูลค่ายังไม่สามารถเปิดเผยได้

ด้านผลประกอบการปี 55 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 30-40% จากปี 54 ที่มีรายได้ 282 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 55 บริษัทมีรายได้แล้ว 257 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 54 ที่มีรายได้ 206 ล้านบาท คิดเป็น 25% และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่ม 30-40% จากปี 54 เนื่องจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์เติบโต จึงมีการนำกากของเสียอุตสาหกรรมมาเผาทำลายมากขึ้น

และในช่วงไตรมาส 3/55 และไตรมาส 4/55 เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะหยุดการเดินเครื่องจักรเพื่อซ่อมบำรุงประจำปี ทำให้โรงงานต้องเริ่มกำจัดของเสียออกมา เพื่อรองรับกากของเสียใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในระยะต่อไป

ส่วนปี 56 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30-40% จากปี 55 เนื่องจากคาดว่าปริมาณกากอุตสาหกรรมจากโรงงานอุตสาหกรรมทั้งระบบประมาณ 8,000 โรงงาน จะเพิ่มขึ้นราวปีละ 10-15% ซึ่งปัจจุบันมีกากอุตสาหกรรมที่ไม่อันตราย 25-26 ล้านตัน/ปี และกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย 3-4 ล้านตัน/ปี อีกทั้งในปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตราว 5% ก็จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีการเติบโตขึ้น ทำให้ปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นเติบโต 30-40%ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังการเผากากของเสียอุตสาหกรรม 1.2 แสนตัน/ปี ซึ่ง 9 เดือนแรกบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิต 6.6 หมื่นตัน/ปี ทำให้ยังมีกำลังเผากากของเสียเหลือประมาณ50% ซึ่งบริษัทฯมีลูกค้าใช้บริการจากโรงงานอุตสาหกรรม 700-800 โรงงาน คิดเป็น 10% จากโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมดในระบบ

ด้านแผนรับงานบำบัดกากอุตสาหกรรมจากต่างประเทศเข้ามาเผาทำลายเป็นโครงการในอนาคตของบริษัทเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน(AEC) ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับภาครัฐในการแก้ไขอนุสัญญาว่าด้วยการจำกัดการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศกำลังพัฒนาไปยังประเทศด้อยพัฒนาที่ยังเป็นกำแพงปิดกั้นโอกาสในการทำธุรกิจของบริษัทฯ โดยมีการมองโอกาสในการนำกากอุตสาหกรรมจากประเทศมาเลเซีย พม่า และเวียดนามนำเข้ามาเผาทำลาย และการเผาทำลายแท่นขุดเจาะน้ำมันในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ซึ่งมีปริมาณและราคาที่ดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ