(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ดีดลุ้นทะลุ 1,400 อีกรอบ รับ fiscal cliff คลี่คลาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 2, 2013 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ดีดตัวขึ้นลุ้นทะลุผ่าน 1,400 จุดอีกครั้งหลังจากวันศุกร์ขึ้นไปทดสอบแต่ยังยืนไม่อยู่ รับปัจจัยบวกกรณี fiscal cliff ของสหรัฐเริ่มคลี่คลาย และ Fund Flow ต่างชาติยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยให้แนวต้านไว้ที่ 1,400-1,405 จุด แนวรับ 1,385-1,390 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดเช้านี้มองว่าจะดีดตัวกลับจากวันศุกร์ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ 1,400 จุดอีกครั้ง จากปัญหา fiscal cliff ของสหรัฐเริ่มคลี่คลายเมื่อวุฒิสภาเข้ามาช่วยออกร่างกฏหมายแบบประนีประนอม ยังให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี หรือลดการเก็บภาษีให้กับบุคคลที่มีรายได้น้อย ส่วนเรื่องของการตัดลดค่าใช้จ่ายนั้นมีการเลื่อนไปอีก 2 เดือน แต่ก็ต้องติดตามว่าสภาล่างจะเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้หรือไม่ หากเห็นด้วยก็จะทำให้ปัญหา fiscal cliff หมดไป คาดว่าจะตอบสนองกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปในทางที่ดี

ในขณะเดียวกัน Fund Flow ยังมีแนวโน้มไหลเข้าต่อเนื่อง หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาต่างชาติซื้อถึง 1.5 พันล้านบาท และทั้งเดือน ธ.ค. 55 ที่ผ่านมา 2 หมื่นกว่าล้านบาท ดังนั้น เดือน ม.ค.ยังมีแนวโน้มที่จะไหลเข้าต่อ

“ความคลี่คายของปัญหา fiscal cliff และ เรื่องของ Fund Flow ของต่างชาติ จะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปทดสอบที่ 1,400 จุดอีกครั้งได้"นายอภิชาติ กล่าว

พร้อมให้แนวรับของดัชนีวันนี้ไว้ที่ 1,385-1,390 และแนวต้านที่ 1,400-1,405 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(1 ม.ค.56)ปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 203.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 16.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 38.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 21.51 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 2.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.80 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 7.20 จุด

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุด

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(28 ธ.ค.55)1,391.93 จุด ลดลง 5.26 จุด(-0.38%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,573.32 ล้านบาท เมื่อ 28 ธ.ค.55
  • ตลาดน้ำมันนิวยอร์คปิดทำการวานนี้(1 ม.ค.56)เนื่องในวันปีใหม่
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(28 ธ.ค.55) ปิดที่ 5.9 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.51/53 แนวโน้มแข็งค่า จับตาการทำข้อตกลง fiscal cliff
  • แบงก์ประเมินเศรษฐกิจปีนี้ยังเสี่ยงจากปัจจัยเดิม ระบุเริ่มศักราชใหม่โครงสร้างการค้าเปลี่ยน กลุ่มซีแอลเอ็มวี มีบทบาทกับเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลการค้าชายแดนคึกคัก หนุนกระจายความมั่งคั่งออกนอกกรุงเทพฯ อสังหาฯในภูมิภาคขยายตัวแซง กทม. ดันมูลค่าแตะ 7 แสนล้าน
  • ทำเนียบขาว-รีพับลิกันบรรลุข้อตกลงแก้ปัญหา"หน้าผาคลัง"สภาสูงผ่านร่างกฎหมายขยายเวลาลดภาษี แต่ไม่รวมผู้มีรายได้มากกว่า 450,000 ดอลล์ พร้อมยืดเวลาลดใช้จ่ายภาครัฐออกไปอีก 2 เดือน ด้านนักเศรษฐศาสตร์ประเมินปัญหายุโรปสหรัฐ ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักเศรษฐกิจไทยปี 2556 เหตุกดดันเงินทุนเคลื่อนย้าย แต่มองเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ จากปัจจัยในประเทศและเศรษฐกิจเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะแรงหนุนจากลงทุนภาครัฐ
  • หุ้นไทยปี 2556 ผันผวนสูง เอ็มดีตลาดหุ้นชูนโยบายลงทุนภาครัฐ และการเติบโตของกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียน เป็นแรงผลักดันหลักต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนี ด้าน "เมย์แบงก์ กิมเอ็ง" เชื่อเม็ดเงินในระบบที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการอัดฉีดของสหรัฐฯ ยังไหลเข้าดัชนีแตะ 1,450 จุด ยกกลุ่มแบงก์ วัสดุก่อสร้าง รับเหมา และสื่อสาร มีความโดดเด่นน่าลงทุน
  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยปี 2556 มีโอกาสขยายตัวสูงกว่า 5.5% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่อเนื่องทั้งเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ขณะที่การลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการบริโภคที่มีแรงส่งจากปี 2555
  • แบงก์ชาติเผยรอบสองในการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันดันค่าจ้างบางจังหวัดกระโดด 70-80% แต่ภาพรวมส่งผลให้ค่าจ้างขั้นต่ำกระโดด 20% และกระทบต่อค่าจ้างเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 9% ห่วงเอสเอ็มอีในต่างจังหวัดหนักสุด ส่วนรัฐตั้งงบประมาณพิเศษเยียวยาช่วยได้ชั่วคราว ชี้ขึ้นค่าจ้างรอบแรกดูดแรงงานจากพื้นที่ 70 จังหวัด ส่วนผู้ประกอบการบางจุดปรับตัวทำธุรกิจงอกในอุตสาหกรรมอื่นแทน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ขยายตัวดีตลาดภายในประเทศ รวมถึงเพิ่มเวลาทำงาน
  • แบงก์ชาติชี้หนี้ภาคครัวเรือนขณะนี้อยู่ในโหมดเฝ้าระวัง หลังสินเชื่อที่ให้แก่ครัวเรือนขยายตัวสูงสักพักหนึ่งแล้วจากผลพวงมาตรการภาครัฐ-น้ำท่วมระบุถ้าเศรษฐกิจดีก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อใดที่เศรษฐกิจแย่ยิ่งฉุดให้ครัวเรือนโดนถล่ม แนะสิ่งสำคัญที่สุดและทำได้ทันทีภาครัฐทุกฝ่ายควรรณรงค์ให้คนมีวินัยทางการเงินที่ดี ชี้สุดท้ายถ้าสถานการณ์ไม่ดีก็มีก๊อกสองเตรียมการรองรับทุกสถานการณ์ไว้แล้ว
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานแผนการออกพันธบัตร ธปท. เดือน ม.ค. 2556 ซึ่งจะเป็นการทยอยออกจำนวน 14 ครั้ง เป็นวงเงินรวม 4.02 แสนล้านบาท โดยพันธบัตรที่ออกมามีอายุตั้งแต่ 28 วัน จนถึง 3 ปี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ROJNA(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 11.45 บาท แม้ว่าปีนี้ ROJNA จะไม่มีรายได้พิเศษจากค่าชดเชยน้ำท่วม แต่คาดว่าผลประกอบการจะยังคงทรงตัวในระดับสูง จากการขายที่ดินที่มีโอกาสปรับขึ้นไปถึง 1.5 พันไร่ สูงค่าเฉลี่ยในอดีต ประกอบกับรายได้ของธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เข้าสู่ภาวะปกติ มีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม และยังมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มจากการขายเงินลงทุนบริษัทในประเทศจีน
  • CK (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 14.80 บาท แผนการลงทุนของภาครัฐจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่จะทำให้งานในมือของ CK มีโอกาสปรับขึ้นไปถึงระดับ 1.5 แสนล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้การรับรู้รายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าค่อนข้างสม่ำเสมอ นอกจากนี้การนำบริษัทย่อย CK Power เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะช่วยเสริมสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนให้กับธุรกิจหลักได้ดีขึ้น
  • PTT(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 392 บาท ประเมินว่าหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี มีแนวโน้มกลับสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีในปี 2556 และ PTT มี Valuation ที่ค่อนข้างต่ำมาก รวมทั้งให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 2H55 หุ้นละ 8.00 บาท และคาดว่าการทยอยปรับขึ้น LPG ภาคครัวเรือน ตั้งแต่ ก.พ.56 เป็นต้นไป ในอัตราเดือนละ 0.50 บาท/กิโลกรัม เป็นเวลา 12 เดือน จะเป็น Catalyst ให้กับราคาหุ้นในปี 2556
  • SCB(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 204 บาท คาดกำไรสุทธิปี 55 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นราว 28% เป็น 4.6 หมื่นล้านบาท 9M55 มีกำไรสุทธิ 3.04 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 24%YoY (ไม่รวมกำไรพิเศษครั้งเดียวจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนมูลค่า 5,100 ล้านบาทที่บันทึกใน 1Q54) ในช่วง 11 เดือนแรกสินเชื่อเพิ่มขึ้น 20.3% YTD สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ