"พีทีจี เอ็นเนอยี"จะขายหุ้น IPO 420 ล้านหุ้น ใช้ขยายธุรกิจขายน้ำมัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 2, 2013 10:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี(PTG) ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.55 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 420 ล้านหุ้น แบ่งเป็นเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป 386.60 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย จำนวน 33.40 ล้านหุ้น โดยมีบริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจจำหน่ายน้ำมัน โดยลงทุนเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมัน PT ให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ ๆ ในประเทศ ใช้เงินประมาณ 440 ล้านบาทช่วงปี 56, ใช้ลงทุนเพิ่มจำนวนรถบรรทุกน้ำมันเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้เงินประมาณ 80 ล้านบาทช่วงปี 56, ใช้ลงทุนธุรกิจร้านกาแฟสดภายในสถานีบริการน้ำมัน PT ใช้เงินประมาณ 40 ล้านบาทในช่วงปี 56 และใช้ลงทุนเพิ่มจำนวนร้านสะดวกซื้อและปรับปรุงร้านสะดวกซื้อภายในสถานีบริการน้ำมัน PT ใช้เงินประมาณ 90 ล้านบาท ในช่วงปี 56

นอกจากนี้ ยังใช้ลงทุนปรับปรุงภาพลักษณ์ของสถานีบริการน้ำมัน PT ใช้เงินประมาณ 60 ล้านบาทในปี 56, ใช้ลงทุนปรับปรุงและพัฒนาซอฟท์แวร์และระบบสารสนเทศที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ใช้เงินประมาณ 60 ล้านบาท ในช่วงปี 56-57 รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี(PTG) ประกอบธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับตัวแทนจำหน่ายน้ำมันของบริษัท, ผู้ค้าน้ำมันรายอื่น และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทฯได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อย 8 บริษัท ได้แก่ บริษัท พีระมิด ออยล์จำกัด(PMO). บริษัท แอลไพน์ ออยล์ จำกัด(APO), บริษัท เอ็มไพร์ ออยล์ จำกัด(EPO), บริษัท เอเวอร์เรสต์ ออยล์ จำกัด(EVO), บริษัท แอตลาส ออยล์ จำกัด(ALO). บริษัท แอนดีส ออยล์ จำกัด(ADO), บริษัท พิเรนิส ออยล์ จำกัด(PRN) และบริษัท โอลิมปัส ออยล์ จำกัด(OLP) อีกทั้งได้ตั้งบริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ดำเนินธุรกิจร้านกาแฟภายในสถานีบริการน้ำมัน PT

ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุด 30 ก.ย.55 มีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการ 30,505.08 ล้านบาท กำไรเบ็ดเสร็จรวม 249.11 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3,358.26 ล้านบาท หนี้สินรวม 2,079.27 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 1,278.99 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 ก.ย.55 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 1,670 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,670 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และมีทุนเรียกชำระแล้ว 1,250 ล้านบาท หลังเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนชำระแล้ว 1,670 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ณ วันที่ 30 ก.ย.55 คือ กลุ่มครอบครัวรัชกิจประการ ถือหุ้น 547,896,660 หุ้นหรือคิดเป็น 43.83% หลังเสนอขายหุ้น IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 32.85% รองลงมาคือ นายศักดิ์อนันต์ วิจิตรธนารักษ์ ถือหุ้น 335,040,000 หุ้นหรือคิดเป็น 26.80% หลังเสนอขายหุ้น IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 20.07%

ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิของบการเงินเฉพาะบริษัทหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ