AGEเริ่มรับรู้ฯคลัง-รง.คัดแยกถ่านหินสมุทรสาคร Q1/56ส่งซิกดันรายได้พุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 2, 2013 15:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถเปิดดำเนินการคลังสินค้าและโรงงานคัดแยกถ่านหิน ต.นาดี จ.สมุทรสาคร ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธ.ค.55 ดังนั้น บริษัทจะปรับรู้รายได้จากคลังสินค้าดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 1/2556 เป็นต้นไป เบื้องต้นคาดว่าจะมียอดขายถ่านหินจาก ต.นาดี จากพื้นที่ในการจัดเก็บสต๊อกถ่านหิน เฉลี่ย 40,000 ตัน/เดือน และรองรับการผลิตเพื่อการคัดแยกเฉลี่ย 30,000 ตัน/เดือน
"ขณะนี้ บริษัทได้เปิดดำเนินการกิจการถ่านหินที่ นาดี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ บริษัทได้ระงับการประกอบกิจการการประกอบกิจการถ่านหินจากความร่วมมือปฏิบัติตามคำสั่งของทางราชการ ที่มีคำสั่งให้ระงับกิจการของผู้ประกอบการถ่านหินในจังหวัดสมุทรสาคร ทุกแห่ง" นายพนม กล่าว

ทั้งนี้ ถือว่าสัญญาณที่ดีสำหรับแผนการขยายการดำเนินงานของบริษัทอย่างมาก เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีฐานลูกค้ากว่า 100 ราย โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กว่า 50% ประกอบกับเป็นย่านนิคมอุตสาหกรรมเขต จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ เขตอุตสาหกรรมปริมณฑล ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ครบคลุมภาคกลางตอนล่าง

อนึ่ง บริษัทได้ปฏิบัติตามแนวทาง มาตรการ และขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาจากการประกอบกิจการถ่านหินที่ จังหวัดสมุทรสาคร ได้กำหนดไว้ครบถ้วนแล้ว และได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) ระหว่างเทศบาลตำบลนาดี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และ อำเภอเมืองสมุทรสาคร ทางจังหวัดสมุทรสาคร จึงยกเลิกคำสั่งระงับการประกอบกิจการถ่านหินของบริษัทฯ และให้บริษัทฯ ดำเนินการประกอบกิจการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบต่อไป ซึ่งการเปิดดำเนินการในครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทฯมียอดขายรวมเพิ่มขึ้น

และจากกรณีที่คลังสินค้า ต.นาดี กลับมาดำเนินการได้ ส่งผลให้ปัจจุบัน AGE กลับมามีคลังสินค้าครบทั้ง 3 แห่ง คือ ที่ ต.นาดี จ.สมุทรสาคร ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะอยู่ในย่านอุตสาหกรรมเขต จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร และเขตอุตสาหกรรมปริมณฑล 2. คลังสินค้าที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี รองรับกลุ่มลูกค้าในเขตภาคใต้ และภาคตะวันตก ซึ่งคลังสินค้าทั้ง 2 แห่งเป็นโรงงานคัดแยกและคลังเก็บสินค้า ส่วนที่ จ.อยุธยา เป็นโครงการท่าเรือและคลังสินค้า ที่รองรับกลุ่มลูกค้าภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยโครงการท่าเรือและคลังสินค้าดังกล่าวถือเป็นคลังสินค้าแบบประหยัดพลังงาน และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI โดยยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี และเป็นโครงการที่ลดการขนส่งด้านโลจิกติกส์ ที่สามารถช่วยลดต้นทุนได้ปีละกว่า 100 ล้านบาท

สำหรับรายได้ในปี 56 บริษัทตั้งเป้าที่ 6,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมรายได้ จาก ต.นาดี ขณะที่บริษัทยังเดินหน้าตามแผนการขยายธุรกิจ ใน 5 ปี 4 โครงการนั้น ประกอบไปด้วย การส่งออกถ่านหินไปยังต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้มีการส่งออกถ่านหินไปยังประเทศจีน และกำลังจะขยายตลาดไปยังประเทศอินเดีย โครงการลดต้นทุนดำเนินโครงการก่อสร้างท่าเรือละคลังสินค้าระบบปิด เพื่อลดขั้นตอนในการนำเข้าลง การลงทุนในธุรกิจต้นน้ำ คือ เหมืองถ่านหิน เพื่อการรองรับการเติบโตของธุรกิจในอัตราที่สูง ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท และการลงทุนในธุรกิจปลายน้ำ โดยได้ศึกษาโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ