ปัจจุบัน PLE มี Backlog ราว 8,000 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ราว 1,200 ล้านบาทใน 4Q55 และคงเหลือ Backlog ราว 6,800 ล้านบาท ณ สิ้นปี 55 หรือคิดเป็น 82% ของประมาณการรายได้ปี 56 ที่ 8,250 ล้านบาท ดังนั้น จึงเชื่อว่าประมาณการรายได้ของเรามีความเสี่ยงค่อนข้างจำกัด
ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรจะดีขึ้นมากในปี 56 หลังเสร็จสิ้นการตั้งสำรองหนี้สูญของโครงการบ้านเอื้ออาทร และบริษัทย่อยในกาตาร์แล้วทั้งจำนวนในปี 55 ดังนั้น แม้ว่า 4Q55 คาดว่าจะมีผลขาดทุนสุทธิเล็กน้อยราว 14 ล้านบาทจากการตั้งสำรองโครงการบ้านเอื้ออาทร และหนี้สินของบำรุงเมืองส่วนที่เหลืออีกราว 100 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าว 4Q55 จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ผลประกอบการปี 56 คาดว่าจะ Turnaround พลิกเป็นกำไรสุทธิ 194 ล้านบาท หรือ EPS หุ้นละ 0.24 บาท รวมทั้งยังมี Valuation ที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทรับเหมาขนาดเล็ก โดยมี PBV สิ้น 3Q55 เพียง 0.98x น้อยกว่า CNT 3.17x, NWR 1.96x และ UNIQ 1.66x
นอกจากนั้น ยังมี Upside Risk จากการจัดตั้ง Property Fund โครงการ SOHO ใน 2Q—3Q56 โดยมีอายุสัญญาเช่า 24 ปี และขนาดกองทุนราว 2.5 พันล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้มีกำไรพิเศษจากการจัดตั้ง Property Fund สูงถึง 1.0 พันล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.50 บาท และยังไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการของเรา
วานนี้(2 ม.ค.)หุ้น PLE ปิดที่ 2.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท(+4.04%)