ทั้งนี้ คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในเดือน เม.ย.56 โดยจะมี 3 ฝ่ายร่วมลงนาม คือ THCOM, Bharat Sanchar Nigam Limited (BSNL)ที่เป็นโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ด้านโทรคมนาคมของอินเดีย และกลุ่มธุรกิจในอินเดีย
"ตอนนี้กับอินเดียก็ยังเจรจากันอยู่...คิดว่าจะจบได้ไนไตรมาส 1 ปีนี้และจะเซ็นสัญญา เม.ย.56 อาจจะช้ากว่าจีน"นางศุภจี กล่าว
ส่วนลูกค้าในจีนที่ THCOM ได้เจรจาขายสิทธิช่องสัญญาณดาวเทียม iPSTAR ทั้ง 24% จะเซ็นสัญญาในวันที่ 1 เม.ย.56 เช่นกัน ประกอบด้วยสัญญา 2 ฉบับ คือ การขายเหมาช่องสัญญาณดาวเทียม iPSTAR ระหว่าง THCOM กับ SYNERTONE (บริษัทแม่ที่ถือหุ้น VAST 100%) และอีกฉบับเป็นการขายกับรายย่อยที่ได้ตกลงให้ส่วนแบ่งรายได้จากการขายช่องสัญญาดาวเทียมที่ VAST จะขายให้กับไชน่า เทเลคอม เป็นสัญญา 3 ฝ่าย อายุสัญญาทั้งสองฉบับเท่ากับอายุการใช้งานดาวเทียมที่เหลืออยู่ 9.5 ปี โดยได้รับชำระเงินเป็นรายปี ซึ่งบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ในจีนตั้งแต่เดือน เม.ย.56
"ราคาได้เจรจาเรียบร้อยแล้ว รอรายละเอียดในสัญญา ที่จะเซ็นในวันที่ 1 เม.ย.56 โดยราคาที่ขายเหมาเราก็พอใจ และเมื่อรวมกับส่วนแบ่งรายได้ ก็ไม่ได้น้อยกว่าขายกับ end user"นางศุภจี กล่าว
นางศุภจี ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ บมจ.ทีโอที ยังส่งหนังสือขอต่ออายุสัญญาการใช้งาน iPSTAR ออกไป 4 เดือน (8 ธ.ค.55- 8 เม.ย.56) และขอเพิ่มการใช้ช่องสัญญาณ(Bandwidth) เพิ่มเท่าตัวจากที่ใช้ 4% เป็น 8% เพื่อรองรับการโครงการ school net และใช้ประโยชน์สาธารณะ(USO) โดยระหว่างนี้อยู่การพิจารณาของคณะกรรมการทีโอทีที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง เนื่องจากการทำสัญญาใหม่เป็นสัญญาระยะยาว และมูลค่าสูง
หลังจากการใช้งาน iPSTAR ดวงแรกมีเพิ่มขึ้น ทำให้ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทจะต้องเริ่มเตรียมการวางแผนการสร้างและติดตั้งดาวเทียม iPSTAR ดวงที่ 2 โดย iPSTAR ดวงแรกใกล้จะมีการใช้งานช่องสัญญาณเกิน 40% ทั้งจากลูกค้าในจีน ญี่ปุ่น อินเดีย และไทย ที่ใช้ช่องสัญญาณเต็มที่ ซึ่งจะทำให้เกินจุดคุ้มทุน 28% จึงต้องเริ่มวางแผนสร้างดวงที่ 2
"เรามี committment จะสร้าง iPSTAR ดวงที่ 2 เมื่อ ดวงแรก มีการใช้งานเกิน 50% ซึ่งระยะเวลาเป็นไปตามแผนที่วางไว้" ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THCOM กล่าว
นางศุภจี กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปี 56 ทั้งรายได้และกำไรสุทธิจะดีขึ้นกว่าปี 55 โดยหลังจากที่บริษัทได้ขายกิจการเอ็มโฟนในกัมพูชาออกไปทำให้บริษัทได้กำไรกลับมาไตรมาสละ 150 ล้านบาท เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่เคยต้องมีภาระรับรู้ขาดทุนจากเอ็มโฟนไตรมาสละ 130-150 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อหมดภาระดังกล่าวไปจึงทำให้ธุรกิจแข็งแรงขึ้น
"ปี 56 กำไรจะดีมากขึ้น เพราะ iPSTAR ก็จะเลยจุดคุ้มทุนไปแล้ว(เม.ย.56) ดูจากปี 55 เรามีกำไรติดต่อกัน 4 ไตรมาส แม้ว่าตอนนั้น iPSTAR ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน"นางศุภจี กล่าว
ราคาหุ้น THCOM ช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+1.98%) โดยราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 26 บาท ซึ่งเป็นนิวไฮในรอบ 17 ปี