บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์แนะ"ซื้อ"หุ้น ธนาคารทหารไทย(TMB) และเป็นหุ้น Top pick โดยเชื่อว่ามูลค่าหุ้นไม่แพงและแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่ง
การเติบโตของ TME ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นและแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่งกว่ารายอื่นในช่วงหลายปีข้างหน้า ROE เติบโตขณะที่อุตสาหกรรมอยู่ในระดับที่ทรงตัว การขยายตัวของ ROE ที่รวดเร็วที่สุดจะทำให้ P/BV ต่อ ROE ลดลงจากที่สูงสุดในกลุ่มตั้งแต่ปี 2014 และเนื่องจากเคยซื้อขายที่ P/BV 2.1 เท่า ในปี 2010 และในขณะนั้นปัจจัยพื้นฐานและฐานะทางการเงินอ่อนแอกว่าในปัจจุบัน อัตราส่วน P/BV ของ TMB ที่ระดับ 1.5 เท่า อยู่ในระดับค่าเฉลี่ย P/BV 3 ปี ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท/หุ้น เทียบเท่า P/BV 1.8 เท่า ในปี 2013
TMB สามารถแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ในด้าน funding ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม แทนการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินในด้านเงินฝากรูปแบบเดิมๆ TMB ได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบใหม่ "No Fee Savings Account" และ "No Fixed Account" และได้รับการตอบรับที่ดี ส่งผลให้ funding mix ของธนาคารมีการปรับเปลี่ยนที่ดีขึ้น และลด funding cost ได้ 0.15% ในปี 2012
และ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประสบผลสำเร็จ TMB ได้ทำการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบใหม่เน้นกลุ่ม SME เพื่อเพิ่มสัดส่วนหลังมีผลตอบแทนสูง การปรับเปลี่ยนสัดส่วนของสินเชื่อที่เน้นไปกลุ่ม SME รวมถึงประโยชน์จากการลด funding cost เต็มปีและ NPL ที่ลดลงจะช่วยให้ NIM ของ TMB ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าที่กล่าวมาข้างต้น
ทั้งนี้ tax loss carried forward จะหมดในปีนี้ ส่งผลให้อัตราภาษีจ่ายเงินได้นิติบุคคลของ TMB เพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 20% ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป ตรงข้ามกับที่ตลาดมอง เราไม่เห็นปัจจัยดังกล่าวมีนัยสำคัญเนื่องจากผลประโยชน์ของการดำเนินธุรกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นและการเป็นธนาคารพาณิชย์ที่เน้นการทำธุรกรรมทางการเงินมากพอชดเชยภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรเติบโตในอัตราที่เร็วกว่ารายอื่น เราเห็น EPS growth 18% ในปี 2013 และ 24% ในปี 2014 เติบโตจาก 1) NIM ขยายตัว 19bp 2) รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 21% 3) สินเชื่อเติบโต 9% ต่อปี และ 4) การควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น