บลจ.กสิกรไทย มองตลาดหุ้นไทยปีนี้เป็นบวกรับปัจจัยศก.ดี-กำลังซื้อเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 4, 2013 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในปีนี้แนวโน้มยังคงเป็นบวก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคในประเทศที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และยิ่งเมื่อได้รับแรงส่งจากการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ทำให้ฐานภาษีของผู้มีรายได้ส่วนใหญ่ลดลง 2-5% คาดว่าจะยิ่งทำให้มีกำลังซื้อมากขึ้น ประกอบกับ การขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อการบริโภค

ขณะเดียวกันการลงทุนของภาครัฐที่ยังมีโครงการลงทุนและโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยยังคงสามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะสามารถขยายตัวได้ 4-5% นอกจากนี้ การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20% ซึ่งจะทำให้บริษัทส่วนใหญ่มีกำไรสุทธิมากขึ้นและส่งผลบวกต่อราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนก็นับเป็นปัจจัยบวกอีกประการที่จะผลักดันให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตต่อไปได้อีก

นายประเสริฐ เชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เห็นได้จากยอดซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่เริ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 23,000 ล้านบาท ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั้งปี 2555 อยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,100 ล้านบาทต่อเดือน

ดังนั้น ในปีนี้ บลจ. กสิกรไทยจะยังคงเน้นลงทุนในหุ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน ตลอดจนการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก

"ระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงขายทำกำไรบ้างหลังจากราคาได้ปรับขึ้นไปมาก แต่จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าในปีนี้จะสามารถเติบโตได้กว่า 15% ก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง"นายประเสริฐ กล่าว

ส่วนปัจจัยภายนอกยังคงต้องจับตาการเลื่อนการพิจารณาการตัดลดงบประมาณของสหรัฐฯ ออกไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดเกิดความกังวลและมีโอกาสปรับฐานลงมาได้ในช่วงดังกล่าว แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วก็จะสามารถตกลงกันได้ เช่นเดียวกันกับมาตรการการปรับขึ้นภาษีของผู้มีรายได้ปานกลางในสหรัฐฯ ที่สามารถหาข้อยุติได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มต้นปีค่อนข้างสดใส เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหลังจากสหรัฐฯสามารถผ่านข้อตกลงขั้นต้นเกี่ยวกับปัญหาหน้าผาการคลัง(Fiscal Cliff) ตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทยยังคงมีทิศทางเป็นบวก โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ล้วนมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่องรวมถึงมาตรการซื้อคืนพันธบัตรจากธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งจะส่งผลให้มีสภาพคล่องและเม็ดเงินไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียรวมถึงไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ