(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นต่อ คลายกังวลเฟด-แรงซื้อตปท.หนุน,อาจมีขายทำกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 7, 2013 09:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดเช้านี้น่าจะปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ถึงแม้ระหว่างวันจะมีความผันผวนเกิดขึ้นจากแรงขายทำกำไรบ้าง แต่มองว่าปัจจัยบวกยังมีมากกว่า เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(Fed)อาจจะหยุดซื้อพันธบัตรภายในปีนี้ หลังจากที่ตัวเลขเมื่อคืนวันศุกร์ออกมาสะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีความเปราะบางอยู่ ถึงแม้ว่าอัตราการจ้างงานจะเพิ่มสูงขึ้น แต่อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับสูงที่ 7.8% ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายที่ Fed อยากเห็นอัตราลดลงเหลือ 6.5%

ขณะเดียวกันยังมีเรื่องของปัจจัยภายในประเทศ คือเรื่องของ Fund Flow ที่ยังมีแนวโน้มว่าจะยังไหลเข้าอยู่ยังถือว่าเป็นสิ่งที่จะผลักดันให้ตลาดขึ้นได้ต่อ ในส่วนความผันผวนที่จะเกิดขึ้นมองว่ามาจากแรงขายของ LTF และ Trigger Fund ซึ่งทำให้มีมีการ Take Profit ระหว่างทางตลอด ส่งผลให้เกิดความผันผวนในระหว่างวัน

และอีกปัจจัยหนึ่ง คือ รัฐบาลอยู่ระหว่างการศึกษาการลดภาษีนิติบุคคลจาก 20% เหลือ 15% มองว่าเป็นข่าวในเชิงบวก เพราะว่านอกจากจะทำให้เงินทุนจากต่างประเทศมีแนวโน้มที่จะไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว ขณะเดียวกันยังหนุนกำไรของบริษัทจดทะเบียนให้เติบโตต่อเนื่อง

ส่วนตลาดภูมิภาคแกว่งตัวบวก/ลบสลับกันในกรอบแคบๆ

พร้อมให้แนวรับของดัชนีวันนี้ไว้ที่แนวรับ 1,410 จุด และแนวต้าน 1,420-1,425 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(4 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,435.21 จุด เพิ่มขึ้น 43.85 จุด(+0.33%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,466.47 จุด เพิ่มขึ้น 7.10 จุด(+0.49%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,101.66 จุด เพิ่มขึ้น 1.09 จุด(+0.04%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 55.58 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.94 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.21 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.72 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.39 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 3.00 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 ม.ค.)1,416.66 จุด เพิ่มขึ้น 8.25 จุด(+0.59%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,799.67 ล้านบาท เมื่อ 4 ม.ค.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 ม.ค.)ที่ 93.09 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.17 ดอลลลาร์หรือ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 ม.ค.) ปิดที่ 7.6 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.44/46 จับตามาตรการทางการเงินยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐ
  • สศช.ประเมินเศรษฐกิจขยายตัวได้ จากลงทุนภาคเอกชน-โครงการภาครัฐ, นักวิชาการวิตกเศรษฐกิจโลกทรุดยาว เงินทะลักเข้าไทยก่อความเสี่ยงฟองสบู่"บัณฑิต"จี้ธปท.คิดใหม่ดันนโยบายดอกเบี้ยสูงสกัด ด้าน"ประสาร"ประกาศตัวจะเข้าตรวจสอบนโยบายรัฐ เหตุห่วงหนี้รัฐกระโดดจนก่อความเสี่ยงใหม่ ขณะ"อาคม"ยังหวังการลงทุนเอกชนหนุนจีดีพี
  • ไทย-พม่าถกรอบสุดท้ายในเดือนก.พ.นี้ แผนพัฒนาทวาย ตั้งเป้าเริ่มก่อสร้างโครงสร้าง พื้นฐานเดือนเม.ย.นี้ ขณะอิตาเลียนไทยเผย ได้ข้อสรุปสัดส่วนลงทุนแล้ว รัฐบาลไทย-พม่า ฝ่ายละ 37.5% รวม 75% ส่วนอิตาเลียนไทย 25%
  • อธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการขอให้กรมเข้ามาช่วยเปิดร้านถูกใจภายในสถานประกอบการเพื่อนำสินค้าราคาถูกมาจำหน่าย โดยกรมขอศึกษาความเป็นไปได้และตรวจสอบความพร้อมสาขาร้านถูกใจก่อน
  • อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรมีแนวคิดจะลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงเหลือ 15% เพื่อให้อัตราภาษีต่ำสุดในภูมิภาคอาเซียน โดยหวังว่าอัตราภาษีดังกล่าวจะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในไทยมากขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)เปิดเผยว่า ในปี 2556 กระทรวงคมนาคมจะเร่งหาระบบก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงได้ จะทำให้โครงการดังกล่าวสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ในทุกเส้นทางตามแผนที่ได้วางไว้เพราะตัวระบบเป็นตัวแปรหลักในการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง
  • ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ในปีนี้สินเชื่อรายใหญ่อาจจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีสินเชื่อบุคคลและลีสซิ่งจะขยายตัวสูงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPALL(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"ได้รับอานิสงส์จากการปรับค่าแรงขึ้นทั่วประเทศ รวมถึงราคาสินค้าเกษตรที่ดีจากการรับจำนำข้าวและยางพารา ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในกลุ่มแรงงานและเกษตรกรเพิ่มขึ้นส่งผลบวกต่อยอดขายรายสาขา,มีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 550 สาขา คาดทำให้กำไรสุทธิเติบโตสูง พร้อมให้แนวรับ 43.75 บาท แนวต้าน 47.00 บาท
  • TCAP(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 42.50 บาท โครงการรถยนต์คันแรกจะทำให้ 4Q55 เป็นไตรมาสที่สินเชื่อขยายตัวมากที่สุดในปี 55 คาดไว้เพิ่มขึ้น 5.8% QoQ และทำให้ทั้งปี 55 สินเชื่อเพิ่มขึ้นถึง 18% YoY สูงกว่าเป้าที่ 8-10% ในปี 56 เรายังคาดการเติบโตต่อเนื่องของสินเชื่อ และยังมีการขายธุรกิจประกันเป็นส่วนเสริมการเติบโตของกำไรและยังมีการซื้อหุ้นคืนในการจำกัดการลดลงของราคาหุ้นด้วย
  • KBANK(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 251 บาท สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่งไตรมาส 4/55 หนุนโดยสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อ SME นอกจากนี้ ผู้บริหารคาดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไตรมาส 4/55 ที่ 3.4% ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/55, มีแผนจะตั้งอัตรากันสำรองหนี้สูญ(LLP)8.4 พันล้านบาทในปี 55 หรือ 2.1 พันล้านบาทต่อไตรมาส พร้อมคาดกำไรไตรมาส 4/55 ที่ 6.6 พันล้านบาท ลดลง 28% QoQ เนื่องจากผลกระทบจากฤดูกาลและค่าใช้จ่ายทางการตลาด
  • BECL(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 39 บาท ตัวเลขการจราจรทางด่วน ธ.ค.55 เฉลี่ยต่อวัน(BECL+NECL)อยู่ที่ 1.089 ล้านเที่ยว คงที่ YoY แต่ลดลง 4.2% จากเดือนที่ผ่านมา โดยปริมาณการจราจรเฉลี่ยต่อวันในปี 55 เพิ่มขึ้น 5.8% YoY เป็น 1.084 ล้านเที่ยว ใกล้เคียงกับประมาณการา พร้อมคาดแนวโน้มการจราจร ม.ค.56 ลดลงจากเดือนธ.ค.จากปัจจัยทางฤดูกาล
  • ILINK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 25.60 บาท ปรับเพิ่มประมาณกำไรปี 55—56 ขึ้น 16% และ 9% ตามลำดับ คาดกำไรสุทธิปี 55 จะโต +36% yoy เป็น 111 ล้านบาท และปี 56 โต +21.1% yoy เป็น 135 ล้านบาท โดยแนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q55 คาดโตสูง +133% yoy และ +10% qoq เป็น 34 ล้านบาท จากยอดขายสายเคเบิลที่เติบโต และการรับรู้รายได้งานวิศวกรรมที่เพิ่มขึ้น และได้ประโยชน์จากการปรับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแบบที่ 3 ของ กสทช.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ