ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนราว 250 ล้านบาทเพื่อขยายสาขาร้านค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์ใหม่ รวมทั้งสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่และศูนย์ฝึกอบรม โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้เติบโตราว 20% พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ไม่ต่ำกว่า 70-71%
นพ.สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BEAUTY เปิดเผยว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้จะเติบโตจากแผนการรุกขยายสาขาเพิ่ม โดยร้าน BEAUTY BUFFET จะเพิ่มสาขาเป็น 180 สาขาในปีนี้ จากสิ้นปี 55 อยู่ที่ 146 สาขา และร้าน BEAUTY COTTAGE จะขยายเพิ่มเป็น 50 สาขา จาก 31 สาขา ณ สิ้นปี 55 ซึ่งการขยายสาขาเพิ่มขึ้นจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
บริษัทฯเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 250 ล้านบาท สำหรับการขยายสาขาร้าน BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE อีกทั้งยังดำเนินการสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่และศูนย์ฝึกอบรม รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เตรียมนำออกวางขายในไตรมาส 2/56 รุกตลาดคอนวีเนียนที่เป็น Skincare และ Make upเน้นกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและผู้เริ่มทำงาน ซึ่งจะตั้งราคาขายสินค้าไม่สูงมาก รวมทั้งบุกตลาดออนไลน์และแคตตาล็อกด้วย โดยจะเริ่มนำเข้าไปขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
"เราเตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามารุกตลาด convenience ซึ่งมี Position เน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นและผู้ที่เริ่มทำงาน ราคาสินค้าไม่สูงมาก ซึ่งผลิตภัณฑ์Made in Nature ที่ทดลองขายอยู่ในแคตตาล็อกของ 7-11 คิดว่ายังไม่เหมาะ เนื่องจากมีราคาสูง เราจึงสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาขายแทน จุดเด่นอยู่ที่มีSkincare ที่เป็น Functional มากขึ้น เช่น ทาแล้วผิวขาวขึ้นหรือมีวิงค์ และ Make up ที่ไม่มีขายใน 7-11 ในส่วนของการผลิตไม่มีผลกระทบ เนื่องจากโรงงานที่รับจ้างผลิตมีขนาดใหญ่ ส่วนโอกาสของผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต เราต้องการขยายช่องทางจำหน่ายไปตามร้านสะดวกซื้อต่างๆให้มากขึ้น นอกจาก 7-11 ที่มีกว่า 6,000 สาขา เช่น Family Mart, BigC mini, Lotus Express"นพ.สุวิน กล่าว
ส่วนการเปิดร้านภายใต้ชื่อใหม่ เป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ โดยรูปแบบร้านเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่กว่าร้าน BEAUTY BUFFET สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และรองรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯที่เป็น Skincare และ Make Up ได้มากขึ้นเช่นกัน คาดว่าสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 2/56 ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดรูปแบบของร้านที่เป็นโครงการนำร่อง โดยที่ตั้งร้านจะอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
ด้านแผนรุกตลาดอาเซียน บริษัทฯมีแผนขยายเฟรนไชส์เพิ่มในกัมพูชา ลาว และเวียดนาม โดยจะเชิญตัวแทนจากผู้ประกอบการในท้องถิ่นมาเจรจาแผนงานภายในปลายเดือน ม.ค.56 ซึ่งตัวแทนดังกล่าว เป็นตัวแทนที่นำวุฒิศักดิ์คลินิกไปเปิดในลาว เป็นต้น คาดว่าร้านเฟรนไชส์ของบริษัทในประเทศเพื่อนบ้านจะเปิดดำเนินงานได้ภายในปี 56 ส่วนพม่าอยู่ระหว่างการเจรจา และฮ่องกงก็มีบริษัทท้องถิ่นนำสินค้าของ BEAUTY ไปทดลองจำหน่ายแล้ว
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์ปี 56 นพ.สุวิน มองว่าอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์จะเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 9% ต่อปี แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีก็ตาม ซึ่งปีที่แล้วยอดขายของบริษัทฯออกมาดีเกินคาด ไตรมาส 4/55 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/54 โดยสินค้าที่เป็น gift set และ gift box ขายดีจนหมดสต็อก อาจเป็นเพราะผู้บริโภคคลายกังวลเรื่องปัญหาน้ำท่วมที่เคยเปิดขึ้นช่วงปลายปี 54 อีกทั้งห้างสรรพสินค้าในภูมิภาคทยอยเปิดมากขึ้น เป็นส่วนทำให้ยอดขายดีขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน