ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: แรงขายทำกำไรฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 8, 2013 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข่าวที่ว่าคณะกรรมการบาเซิลปรับกฎระเบียบใหม่เพื่อช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์

ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 286.63 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,704.64 จุด ลดลง 25.38 จุด หรือ 0.68% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,732.66 จุด ลดลง 43.71 จุด ลดลง 0.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,064.58 จุด ลดลง 25.26 จุด หรือ 0.41%

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจากคณะกรรมการบาเซิลฝ่ายกำกับดูแลด้านการธนาคารได้ปรับกฎระเบียบว่าด้วยสัดส่วนการสำรองสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องตามเกณฑ์ (LCR) โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือธนาคารต่างๆให้สามารถอยู่รอดได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

การปรับเปลี่ยนดังกล่าวซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเกณฑ์บาเซิล 3 นั้น รวมถึงการขยายขอบเขตสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและการตรวจสอบบางประการเกี่ยวกับอัตราเงินทุนไหลเข้าและไหลออก เพื่อให้สามารถสะท้อนถึงประสบการณ์จริงในการรับมือกับภาวะวิกฤตได้ดียิ่งขึ้น

ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น โดยหุ้นบาร์เคลย์ส และหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ทะยานขึ้น 3.8% และ 1.9% ตามลำดับ ส่วนหุ้นดอยช์ แบงก์ พุ่งขึ้น 2.8% และหุ้นธนาคารโซซิเอเต เจนเนอรัล (ซอคเจน) พุ่งขึ้น 2.7%

อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับฐานลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร โดยหุ้นโรลส์-รอยซ์ ดิ่งลง 1.5% หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์รายงานว่า โรลส์-รอยซ์ ได้ติดสินบนผู้บริหารสายการบินแอร์ ไชน่า และไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลนส์ เพียงเพื่อให้ได้สัญญาสั่งซื้อสินค้ามูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์

นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมอีซีบีในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าที่ประชุมจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% แต่ก็เชื่อว่านายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีอาจส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต่อๆไป ขณะเดียวกันก็มีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งคาดว่า อีซีบีอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเจรจาเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งหากทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ก็อาจทำให้สหรัฐต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ