แต่ดัชนี SET ระยะสั้นจากนี้ถึงกลางเดือน ก.พ.น่าจะทรงตัวแถว 1,400 จุดบวก/ลบ โดยหากจะปรับลงก็คงไม่มากไม่น่าจะไปลึกถึง 1,300 จุด ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาคือประเด็นเรื่องเพดานหนี้สหรัฐ 16.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐที่ใกล้จะถึงแล้ว ซึ่งจะต้องมีการหารือกันใหม่ว่าต้องเพิ่มเพดานหนี้ได้หรือเปล่า และหนี้สเปน 1.48 แสนล้านยูโรที่จะทยอยครบกำหนดในปีนี้ ซึ่งจะเป็นผลกระทบจากนี้ถึงกลางเดือน ก.พ.
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่มองดัชนี SET คงไม่ปรับฐานลงมาก เพราะยังมีเม็ดเงินจากมาตรการ QE ที่จะไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย จากการประเมินภาพกำไรบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ปีนี้คาดเติบโต 16-17% อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่ที่ 5% เม็ดเงินยังจะไหลเข้า
ทั้งนี้ การลงทุนในหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ยังน่าสนใจอยู่ ส่วนทองคำยังไม่เหมาะที่จะลงทุนช่วงนี้เพราะอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยทองคำจะเหมาะที่จะลงทุนในภาวะเงินเฟ้อสูง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงครึ่งปีหลังจากการที่มีเม็ดเงิน QE เข้ามาเยอะมาก จึงมีความเป็นห่วงเรื่องอัตราเงินเฟ้อสูงในครึ่งหลัง
"ตลาดจากนี้ไปถึงกลาง ก.พ.น่าจะทรงตัวให้เลือกลงทุนเป็นรายตัว เน้น growth stock ที่ปีที่แล้วไม่ดี แต่ปีนี้ดี เช่น SPCG ปีนี้มีโรงไฟฟ้าเพิ่ม AJ เพิ่มกำลังผลิต และ STA ส่วนหุ้นปันผลดีพื้นฐานไม่แกว่ง แนะ TICON INTUCH อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7%"นายเผดิมภพ กล่าว
หากการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐสำเร็จ แนะหุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ในกลุ่ม PTT ทั้ง PTTEP TOP PTTGC ที่ราคาน่าจะปรับขึ้น โดยตอนนี้มองเป็นหุ้นดีราคาถูก และแนะหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์ส่งออก คือ KCE ซึ่งจะดันให้ดัชนี SET ไปต่อถึง 1,500 จุดได้