นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการผู้จัดการ บมจ.กฤษดามหานคร(KMC)เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จย่านรัชดาภิเษกเพื่อมาพัฒนาโครงการและขายต่อ คาดว่าจะข้อสรุปภายในเดือน ม.ค.55 โดยโครงการดังกล่าวมีพื้นที่พร้อมขายได้แล้วมากกว่า 1 หมื่นตารางเมตร กำหนดราคาขายที่ 65,000 บาท/ตารางเมตร เป็นมูลค่าโครงการรวม 500-600 ล้านบาท
"ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการเจรจาคืบหน้าแล้ว 60% กำลังดูอยู่ว่าจะเป็นลักษณะซื้อ asset หรือ ซื้อทั้งบริษัท หากเป็นการซื้อ asset ก็เร็ว แต่มีค่าใช้จ่ายการโอนที่สูงขึ้น แต่ถ้าซื้อทั้งบริษัทก็ต้องมีการทำ due deligence ก็ต้องใช้เวลา ภายในสิ้นเดือนนี้น่าจะมีข้อสรุป...โครงการนี้มีพื้นที่พร้อมขายได้ทันทีกว่า 1 หมื่นตารางเมตร แต่บางส่วนต้องมีการพัฒนาต่อ"นายวิรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ หากการเจรจาซื้อโครงการดังกล่าวสำเร็จจะทำให้รายได้ของบริษัทในปี 56 เพิ่มขึ้นมาเป็น 1.5 พันล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1 พันล้านบาท ขณะที่ยอดขายจะเพิ่มเป็น 2.5 พันล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท
นายวิรัตน์ กล่าวว่า บริษัทยังคงแผนการเปิดโครงการใหม่รวม 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวเฮ้าส์ ที่ชลบุรี มูลค่ารวม 800 ล้านบาท โครงการทาวน์โฮม ที่รังสิต มูลค่า 200 ล้านบาท คาดเริ่มพรีเซลในเดือน ก.พ.56 โครงการแกรนด์พาร์ค รังสิต เฟส 2 มูลค่า 300-400 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม The Kriss อาคาร 6-7
นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะพัฒนาโครงการเพื่อรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ จึงต้องตั้งงบเพื่อจัดซื้อที่ดินเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่อง ปีละ 300-400 ล้านบาททั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทั้งนี้ไม่รวมงบในการเทคโอเวอร์ ซื้ออาคารสร้างเสร็จพร้อมขาย โดยเงินที่ใช้จะมาจากการเพิ่มทุน คาดว่าการเพิ่มทุน 4.48 ล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมและนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) คาดว่าจะได้เงินรวมกว่า 1.5 พันล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะสามารถล้างผลขาดทุนสะสมได้หมดในปีนี้ตามแผน
"ตอนนี้มีนักลงทุน PP สนใจซื้อหุ้นเพิ่มทุนแล้ว อยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ก็จะมาเสริมทั้งเงินทุน และเป็น Strategy แต่ก็ต้องดูว่า RO ถ้าซื้อเยอะก็จะเพิ่มความมั่นใจแก่ PP" นายวิรัตน์ กล่าว