พร้อมช่วยต่อยอดด้วยการจับคู่ธุรกิจ (Global Business Matching) จากฐานลูกค้าของธนาคารฯ ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจไทยที่สนใจเข้าไปลงทุนในประเทศพม่า และเครือข่ายนักธุรกิจของพม่าในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยในการเปิดสำนักงานผู้แทนกรุงย่างกุ้งในคราวนี้ ได้มีลูกค้าธนาคารในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมให้เกียรติเข้าร่วมงานมากมาย เพื่อเตรียมพร้อมในการเชื่อมต่อธุรกิจในประเทศพม่า
นอกจากนี้ สำนักงานผู้แทนฯ ของธนาคารกสิกรไทย จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจของลูกค้า โดยมีห้องประชุมที่สามารถจัดการประชุมระหว่างประเทศ (VDO Conference) ไทย-กรุงย่างกุ้ง ซึ่งส่งผลให้นักธุรกิจพม่าและนักธุรกิจไทยสามารถติดต่อธุรกิจกันเบื้องต้นผ่านช่องทางสำนักงานตัวแทนก่อนได้ และยังสามารถใช้สถานที่จัดการประชุมหรือสัมมนาทางธุรกิจที่กรุงย่างกุ้งได้เช่นกัน ภายในสำนักงาน ฯ ยังมีพื้นที่สำหรับใช้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารกสิกรไทยจะเปิดให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนไทยใช้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย
สำหรับประเทศพม่า เป็นประเทศที่น่าจับตามอง โดยได้เริ่มปฏิรูปประเทศทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเปิดรับนักธุรกิจจากต่างชาติมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า จีดีพีของพม่าใน 2556 จะเติบโตที่ประมาณ 6.3% การส่งออกจะเติบโตประมาณ 11% โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ สิ่งทอ และ ไม้สัก
ขณะเดียวกันเมื่อปี 2555 ก็ได้ปรับปรุงกฎหมายการลงทุน (Foreign Investment Law) ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศพม่า ตั้งแต่การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปจนถึงการลงทุนด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน ที่ยังมีพื้นที่และโอกาสพัฒนาอีกมาก ซึ่งจะเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก
ปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทยได้วางยุทธศาสตร์การเป็นเอเชียนแบงก์ โดยมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายกับธนาคารพันธมิตรต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ รวมถึงการเปิดสำนักงานผู้แทนในกลุ่มประเทศเป้าหมายตามกลยุทธ์ของธนาคาร โดยเริ่มจากสำนักงานผู้แทนกรุงย่างกุ้ง เป็นที่แรกของปี 2556 พร้อมเร่งศึกษาการเปิดสำนักงานผู้แทนเพิ่มเติมในประเทศอื่น ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักธุรกิจที่ต้องการขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้สูงสุด