โบรกฯเชียร์"ซื้อ"TCAP กำไรปี 56พุ่งรับขาย Tlife-กองทุนโตหนุนขยายธุรกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 11, 2013 10:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทุนธนชาต(TCAP)มองปี 56 รับประโยชน์จากบันทึกกำไรขาย Tlife เอื้อต่อการขยายธุรกิจในอนาคต และผลประกอบการทั้งปี ขณะที่การปล่อยสินเชื่อยังได้รับอานิสงส์ต่อเนื่องจากนโยบายรถคันแรกและความต้องการซื้อรถยนต์ในตลาดยังมีอยู่ ขณะที่วางแผนเชิงรุกบุกกลุ่มลูกค้า SME ขนาดเล็ก ลูกค้าโชห่วย และผู้ประกอบการธุรกิจตามห้องแถวที่มีหลักประกัน เป็นกลุ่ม high yield ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ NIM

          โบรกเกอร์               คำแนะนำ             ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.กรุงศรีฯ                ซื้อ                    46.00
          บล.กิมเอ็ง                 ซื้อ                    47.50
          บล.ฟิลลิป                  ซื้อ                    47.00
          บล.เกียรตินาคิน             ซื้อ                    42.50
          บล.บัวหลวง                ซื้อ                    57.00
          บล.เอเซียพลัส              ซื้อ                    49.14

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)คาดการณ์ว่า TCAP ไตรมาส 4/55 กำไรสุทธิเมื่อเทียบ q-q จะทรงตัวอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท โดยสินเชื่อเช่าซื้อต่างๆยังเป็นไปในทิศทางที่ดี และคาดกำไรทั้งปี 55 จะอยู่ที่ประมาณ 5.36 พันล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวราว 7% y-y

สำหรับในปี 56 การขาย TLIFE จะมีเงินเข้ามาในไตรมาส 1/56 จะส่งผลให้บริษัทสามารถที่จะขยายธุรกิจได้รวดเร็วมากขึ้น

ด้านนายธนัทเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา มองว่า ทิศทางการเติบโตของ TCAP ในปี 56 ยังได้รับผลดีต่อเนื่องจากสินเชื่อนโยบายรถคันแรก แม้ว่าอัตราการเร่งตัวของสินเชื่ออาจจะชลอตัวลงไปบ้างก็ตาม

การขายธุรกิจประกันภัยออกไปนั้นอาจจะสูญเสียเครื่องจักรในการทำเงินในอนาคตไป แต่สิ่งที่จะได้มานั้นอาจจะได้มาทั้งเงินสดที่เพิ่มขึ้นจากการบันทึกกำไร และเงินกองทุนที่จะดีขึ้นต่อการทำธุรกิจในอนาคต ซึ่งอาจจะทำให้บริษัทสามารถไปซื้อธุรกิจอื่นหรือไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นสร้างรายได้กลับมาได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นยังมอง Outlook การเติบโตในปี 56 ยังจะดีอยู่

ขณะที่ราคาหุ้น TCAP ยังไม่แพงมากนักซึ่งในปัจจุบันราคาซื้อขายยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า Book อยู่

ส่วนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจหลักของ TCAP ในปี 56 จะเป็นไปในเชิงรุกมากขึ้น ด้วยนโยบายการขยายสินเชื่อที่จะมุ่งเน้นเข้าสู่กลุ่มลูกค้า SME ขนาดเล็ก (ลูกค้าโชห่วย และผู้ประกอบการธุรกิจตามห้องแถว ซึ่งเน้นลูกค้าที่มีหลักประกัน) ที่เป็นกลุ่ม high yield ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ NIM ของธนาคารฯ มากขึ้น ภายหลังการปรับปรุงระบบการอนุมัติสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์แม้จะเห็นการแผ่วตัวในช่วง 2H56 แต่ศักยภาพการสร้างรายได้ยังแข็งแกร่งต่อเนื่องได้ทั้งปี เนื่องจาก Supply รถยนต์ (โดยเฉพาะรถ Eco car) ที่ยังมี lag time ในการส่งมอบให้กับลูกค้าในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้าสำหรับยอดจองซื้อในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิปี 56 ถึง 23% yoy โดยยังมีความเชื่อมั่นต่อทีมผู้บริหารว่าเงินสดที่ได้จากการขาย TLife สุทธิกว่า 1 หมื่นล้านบาทจะช่วยสร้างผลตอบแทนกลับมาคืนมาในรูปของการลงทุนระยะสั้นได้กว่า 1 ใน 3 ของกำไร TLife ที่หายไปกว่า 1.5 พันล้านบาทในปี 2556

ส่วนที่เหลือจะรับรู้เข้ามาในรูปของรายได้จาก Bancassurance ด้วยจุดแข็งจากการเป็น exclusive partner กับ Prudential life ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่หลากหลาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยอดนิยมทั้ง Endowment และ Whole life ซึ่งเดิม TCAP มีแต่ผลิตภัณฑ์เฉพาะ Credit life ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองอุบัติเหตุ และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภท simple ซึ่งฝ่ายวิจัยมองเห็นศักยภาพเติบโตเชิงรุกส่วนนี้ในระยะยาว

ส่วนของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิของ TCAP ในปี 56 เติบโตโดดเด่น จากภาพรวมกำไรปี 55 คาดเติบโต 11%yoy และปี 56 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตถึง 108%yoy จากกำไรพิเศษในการขาย TLIFE รวมทั้งการเติบโตของ Core operation

เราคาดสินเชื่อ TCAP ปีนี้จะขยายตัวได้ต่อเนื่องอีก 13% จาก Momentum ของยอดขายรถยนต์ที่จะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะใน 1H56 แม้ว่าตลาดรถยนต์ใหม่อาจจะเริ่มชะลอตัวลงในช่วง 2H56 แต่ TBANK จะยังคงเน้นการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อ High Yield ทั้งสินเชื่อรถมือสอง, รถแลกเงิน, Top up loans รวมทั้งสินเชื่อ SMEs ขนาดเล็ก รวมทั้งลดต้นทุนดอกเบี้ย (Funding cost) เพื่อเพิ่มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ขณะที่การลดต้นทุนในการดำเนินยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ เพื่อลด Cost-to-income ratio ลงอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ