ส่วนโปรแกรมออมทองที่บริษัทฯได้ดำเนินการนั้น ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีหลังจากที่บริษัทฯมีการปรับลดอัตราการออมขั้นต่ำอยู่ที่ 5,000 บาท /เดือน ส่งผลให้มียอดตลอดปี 2555 เพิ่มขึ้นประมาณ 7.5% จากปี 2554 และเชื่อว่าในปี 2556 จะมีลูกค้าที่สนใจโปรแกรมดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการคงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอย่างน้อยกลางปี 2558 และมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน(QE) ครั้งที่ 3 และ 4 ของธนาคารกลางสหรัฐฯที่ประกาศใช้ในปี 2555 ถือเป็นปัจจัยหนุนระดับราคาทองคำในระยะกลาง-ยาว ดังนั้น คาดกรอบราคาทองคำในครึ่งปีแรกน่าจะอยู่ในระดับ 1,520-1,800 ดอลลาร์/ออนซ์
ล่าสุด แม้ว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)บางสาขา ออกมาแสดงความเห็นว่าหากยิ่งมีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินครั้งที่ 3 และ 4 อาจจะยิ่งเป็นผลร้ายต่องบดุลของเฟดมากขึ้น จึงแนะนำให้หยุดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินภายในสิ้นปี 2556 แต่หากพิจารณา ณ วันที่ธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งระบุว่าจะยังคงมาตรการดังกล่าวจนกว่าตัวเลขว่างงานจะปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 6.5% จากปัจจุบันตัวเลขว่างงานอยู่ที่ระดับ 7.8% จึงมองว่าเฟดจะยังไม่ยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินครั้งที่ 3 และ 4 ในระยะสั้นนี้
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการประชุมธนาคารกลางยุโรปที่ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมยังเป็นปัจจัยหนุนต่อเงินยูโรและราคาทองคำ อีกทั้งภาคการผลิตของจีนที่เริ่มกลับมาสู่การขยายตัวอีกครั้งในเดือน ธ.ค.55 จากยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นกว่า 14.1% และมียอดเกินดุลการค้า 3.16 หมื่นล้านดอลลาร์ทำให้ความต้องการถือครองทองคำจากจีนอาจเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ทางโกลเบล็กได้มีการรวบรวมสถิติราคาทองคำในปี 2555 ไว้ดังนี้ ราคาทองคำโลกสูงสุดอยู่ที่ 1,789.17 ดอลลาร์/ออนซ์ และต่ำสุดอยู่ที่ 1,539 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 1,668.08 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศไทย ราคาสูงสุดที่ 25,900 บาท/บาททอง และต่ำสุดที่ 22,950 บาท/บาททอง โดนมีราคาเฉลี่ยที่ 24,587.24 บาท/บาททอง