โดยในไตรมาส 2/55 คาดว่าจะสามารถออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrasturcture Fund) 1 แห่ง มูลค่าระดมทุนราว 2 หมื่นล้านบาท โดยได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)แล้ว แต่ยังติดกฎเกณฑ์ของ ก.ล.ต.ในเรื่องการโอนสินทรัพย์การตีมูลค่าทรัพย์สิน และเรื่องอื่นๆอีกเล็กน้อย อย่างไรก็ตามมองว่า ในปี 57 จะมีการระดมทุนโดยการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานกันมากขึ้น เนื่องจากมีการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 ส่วนหนึ่งเพื่อเข้าไปลงทุนใน Infrasturcture Fund)
ส่วนการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ มีขณะนี้มีดีล 5 กอง มูลค่าระดมทุนรวม 3-4 หมื่นล้านบาท โดยรายที่ระดมเงินมากที่สุดอยู่ในธุรกิจค้าปลีก วงเงินระดมทุนราว 2 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยออกกองทุนภายในไตรมาส 3/56
ขณะที่ดีลการซื้อกิจการ ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อกิจการในประเทศ โดยล่าสุดธนาคารประสบความสำเร็จในการซื้อกิจการคืนของ บมจ. บางกอกแร้นช์ (RANCH) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเป็ดแช่แข็งและส่งออกรายใหญ่ของประเทศ เป็นการซื้อกิจการคืนของเจ้าของเดิมที่ได้ขายกิจการให้กับกองทุนต่างประเทศ เป็นมูลค่าราว 6 พันล้านบาท ทำให้บริษัทดังกล่าวกลับมาเป็นของคนไทย โ
บริษัทยังมีดีลขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ของบมจ.เอ็นเนอยี่ แอ็บโซลูท ผู้ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) รายใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่ 270 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมีการผลิตและขายเชิงพาณิชย์แล้ว 8 เมกะวัตต์ และในปี 56 มีแผนเพิ่มเป็น 80 เมกะวัตต์ และภายในปี 58 จะเพิ่มเป็น 270 เมกะวัตต์ โดยนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวมาใช้ในการสร้างโซลาร์ฟาร์มให้ได้ตามแผน
"ขณะนี้ ก.ล.ต.เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว คาดว่าจะขายหุ้น IPO ได้ใน 1-2 สัปดาห์ จำนวน 560 ล้านหุ้น เป็นเงินที่ระดมราว 3 พันล้านบาท จากมาร์เก็ตแค็บบริษัทที่ 1 หมื่นล้านบาท" นายโสภณ กล่าว
แหล่งข่าว SCB กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการจัดโครงสร้างทางการเงินให้บริษัทรายใหญ่แห่งหนึ่ง พร้อมกับหาพันธมิตรต่างประเทศในการเข้าร่วมทุน หลังจากบริษัทดังกล่าวได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยลดภาระต้นทุนของบริษัทให้ลดลง มีโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น และจะทำให้ราคาหุ้นบริษัทดีขึ้น คาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในครึ่งแรกปี 56