(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวกรอบแคบสลับบวก/ลบรอปัจจัยใหม่ลุ้นงบ บจ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 14, 2013 09:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ดัชนีแกว่งตัวกรอบแคบในกรอบบวก/ลบตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ยังแกว่งตัวไร้ทิศทางเพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามา แต่อาจมีแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนสถาบันออกมาในช่วงบ่าย เข้าสู่ช่วงลุ้นงบการเงินงวดปี 55 ของบริษัทจดทะเบียนทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมให้กรอบแนวต้าน 1,418-1,420 จุด แนวรับ 1,400-1,402 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบเคลื่อนไหวในแดนบวกและลบสลับกัน เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเข้าวันนี้เคลื่อนไหวบวกลบสลับกัน เนื่องจากนักลงทุนยังรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามา ช่วงบ่ายอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาจากกองทุน LTF และ Trigger Fund

ช่วงนี้ต้องติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐงวดปี 55 ของสหรัฐฯที่จะเริ่มในวันพุธที่จะถึงนี้ ส่วนบริษัทจดทะเบียนของไทยจะเริ่มจากกลุ่มแบงก์ที่ทยอยออกมาแล้ว 2 ตัว มีบริษัทที่แย่กว่าคาด 1 ราย และตามคาด 1 ราย ดังนั้น คาดว่าตลาดฯช่วงนี้แกว่งตัวรอรับผลประกอบการที่จะออกมา

พร้อมให้แนวต้าน 1,418-1,420 จุด แนวรับ 1,400-1,402 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(11 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,488.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.21 จุด(+0.13%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,472.05 จุด ลดลง 0.07 จุด(0.00%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,125.64 จุด เพิ่มขึ้น 3.88 จุด(+0.12%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.71 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 62.75 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 23.47 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.85 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 22.62 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 14.27 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.71 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 0.60 จุด

สำหรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุด

  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 60.21 ล้านบาท เมื่อ 11 ม.ค.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 ม.ค.)ที่ 93.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.26 ดอลลลาร์หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 ม.ค.) ปิดที่ 7.5 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.26/30 แนวโน้มทรงตัว
  • บีโอไอ เตรียมยกเครื่องอุตสาหกรรมไทย จ่อเลิกให้สิทธิประโยชน์ 80 กิจการ ใช้เทคโนโลยีต่ำ-แรงงานมาก เปิดระดมความเห็นนักธุรกิจไทย-ต่างชาติ คาดประกาศใช้กลางปีนี้ ด้านส.อ.ท. ค้านยกเลิกแบ่งโซนหวั่นกระจุกตัว
  • รัฐปรับบทเป็น"โปรโมเตอร์"เปลี่ยนโมเดลดึงพันธมิตรต่างชาติแทน จับคู่แค่ไทย-พม่าดันตั้ง"เอสพีวี"โครงการทวายเร่งสร้างถนนและโครงสร้างพื้นฐาน เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ขณะที่อิตาเลียนฯเสนอรัฐตั้ง"พีพีพี"ดึงเอกชนร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานชายแดนไทยเชื่อมทวาย คาดโมเดลลงทุนทุกด้านเห็นผลเดือนก.พ.นี้"อารีพงศ์ เชื่อญี่ปุ่นเคาะปล่อยกู้ร่วมทุนได้ เมื่อลงกฎหมายร่วมทุนชัดเจน เชื่อแผนทวายหนึ่งในหัวข้อหารือของนายกฯญี่ปุ่นที่จะเยือนไทย 17-18 ม.ค.นี้
  • น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่ากรมได้อนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคาอาหารสัตว์เฉลี่ยที่ 3-10% หรือปรับขึ้นเกินถุงละ(30 กิโลกรัม) 10 บาทขึ้นไป ตั้งแต่ปลายปี 2555 ซึ่งนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ได้เห็นชอบแล้ว หลังพบว่าต้นทุนผลิตอาหารสัตว์ปรับเพิ่มขึ้นจริง
  • รมว.คลัง เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบว่า ได้ให้นโยบายกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ไปทบทวนนโยบายการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมีการขยายสาขาไปยังพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะในบางอำเภอที่ไม่มีสถาบันการเงินตั้งอยู่เลยเพราะทำให้เป็นปัญหาเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ โดยจำเป็นที่จะต้องนำมาดำเนินการให้เป็นรูปธรรม
  • แบงก์พาณิชย์ร้องธปท.ขอผ่อนผันคำจำกัดความการปล่อยสินเชื่อหวังขยายเพดานปล่อยกู้เอกชนจากที่คุมห้ามเกิน 25% ของกองทุนขั้นที่1 โวยถูกจำกัดการเติบโต เผยภาคเอกชนขยายตัวเร็วกว่าเงินกองทุนของแบงก์ ส่งผลเสียโอกาสให้แบงก์ต่างชาติ พร้อมยกซีพีซื้อผิงอัน เป็นกรณีศึกษา
  • ตลาดชี้แนวโน้มหุ้นไอพีโอปี 2556 ยังสดใส ปัจจุบันมีบริษัทอยู่ระหว่างยื่นขอเข้าจด ทะเบียน 14 ราย ชูจุดเด่นหุ้นไอพีโอในปีนี้ คือมีความหลากหลายทั้งโฮลดิ้งคัมปานีและผู้นำรายใหญ่ในอุตสหากรรมเด่นตบเท้าเข้าเทรด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTEP(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 177 บาท กำไร 4Q55 คาดดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ จากความเป็นไปได้ที่จะปรับราคาก๊าซฯในรอบเดือน ต.ค.55 สูงกว่าที่เราประเมินไว้อย่างมีนัยสำคัญตามแนวโน้มราคาน้ำมันที่ยืนสูงช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ระดับราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ 4Q55 ปรับเพิ่ม คาดเห็นกำไรสุทธิ 4Q55 ราว 1.4 หมื่นล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิปี 55 จะดีกว่าที่คาดเกือบ 10% ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ P/E 10 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจ E&P ในภูมิภาคที่ 17 เท่า
  • DTAC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 100 บาท มีมุมมองบวกต่อค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใหม่แบบขั้นบันไดช่วยลดค่าใช้จ่ายใบอนุญาตประเภทที่ 3 ลงจากเดิม 2% ของรายได้ และประเมินจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตลดลงจากเดิม 27% มากกว่า ADVANC และ TRUE นอกจากนี้ระยะสั้น ปัจจัยบวกของการใช้งานโทรศัพท์มือถือ และโมเมนตัมรายได้ Non voice ที่เติบโตโดดเด่นใน 4Q55 จะทำให้รายได้และกำไรสุทธิมีแนวโน้มดีกว่าที่ประมาณการไว้ ส่งผลให้มีโอกาสจ่ายเงินปันผลสูงกว่าหุ้นละ 1 บาท
  • ESSO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเหมาะสมอิง Consensus ที่ 11.20 บาท ราคาหุ้นยัง Laggard และทิศทางขาขึ้นของปิโตรเคมีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะเป็น Catalyst ต่อหุ้นโรงกลั่น—ปิโตรเคมีต่อเนื่องในปี 56 พร้อมคาดกำไรการดำเนินงานปกติ(ไม่รวมสต็อกน้ำมัน)4Q55 จะทรงตัวสูงต่อเนื่องจาก 3Q55 และมีแนวโน้มเติบโต qoq ใน 1Q56 จาก momentum เชิงบวกธุรกิจปิโตรเคมี รวมทั้งค่าการกลั่นที่เริ่มขยับขึ้นเป็น US$6.60/barrel จากสิ้นสุดปี 55 ที่ US$5.53/barrel

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ