บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ตามที่มีข่าว บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA)ยอมรับรายได้และกำไรปีนี้ชะลอ หลังปรับกลยุทธ์ธุรกิจเน้นให้เช่าซื้อที่ดินระยะยาว 30 ปีแทนการขายขาด หวังให้เป็นสินทรัพย์ในระยะยาว หลังการขยายที่ดินภาคอุตสาหกรรมทำได้ยากขึ้น ไม่หวั่นลูกค้าหันหาคู่แข่งเหตุอยู่ในทำเลที่ดี เผยต้นปีปรับราคาที่ดินแล้ว 18%
ผลกระทบคาดว่าจากความเห็นข้างต้นของผู้บริหารอาจส่งผลลบกับราคาหุ้นในระยะสั้นได้ เพราะนักลงทุนกังวลว่าผลการดำเนินงานในปี 56 นี้จะชะลอตัวลง แต่ในความเป็นจริงแล้วผลการดำเนินงานในปีนี้ส่วนใหญ่จะมีการรับรู้รายได้มาจากยอดขายปี 55 ที่จะมาเป็นยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในปี 56
ทั้งนี้ ในปี 55 บริษัททำยอดขายได้ถึง 2,800 ไร่ เป็นสถิติสูงสุดเทียบกับปี 54 ที่ 1,563 ไร่ เป็นเพราะต้องใช้เวลาในการก่อสร้างสาธารณูปโภคและรอการชำระเงินจึงต้องใช้เวลาในการโอนกรรมสิทธิหลังจากการขาย 12-18 เดือน เราจึงคาดว่าอัตราการเติบโตกำไรสุทธิปี 56 เติบโตดี 90% y-o-y
ส่วนกลยุทธ์การให้เช่าซื้อ 30 ปี จะเห็นผลในระยะกลาง-ยาวมากกว่า โดยในปี 57 คาดว่ากำไรสุทธิเพิ่ม 5% y-o-y
อย่างไรก็ดี คงคำแนะนำ"ซื้อ"แต่ทีมกลยุทธ์เห็นว่าอาจรอจังหวะอ่อนตัวลงได้ เพราะราคาหุ้นปัจจุบันทะยานเข้าใกล้ราคาพื้นฐานที่ 20 บาทแล้ว ซึ่งประเมินด้วยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของบริษัท ในอนาคตเราอาจมีการปรับ NAV เพิ่ม เพราะบริษัทมีการปรับราคาขายที่ดินสูงกว่าที่คาดไว้เดิม ข้อดีของเช่าซื้อคือ สินทรัพย์ยังเป็นของบริษัท และผู้สนใจต้องการนิคมฯใช้เงินเช่าน้อยกว่าการซื้อขาด อุปสงความต้องการนิคมฯจะเพิ่มสูงขึ้น