ออสสิริส เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่รองรับลงทุนทองคำระยะสั้น มอง Q1/56 ราคาเป็นขาขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 14, 2013 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนสิน กลีบลำเจียก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออสสิริส จำกัด เปิดเผยแผนงานในปี 56 ว่า บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับพฤติกรรมของนักลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปจาก Buy and Hold เป็นการลงทุนระยะสั้นมากขึ้น ดังนั้น บริษัทจะมีลดขนาดหน่วยลงทุนในการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตลงเป็นขนาดน้ำหนักทองคำ 1 บาท จากที่ก่อนหน้านี้ต่ำสุดคือ 5 บาท รวมถึงขยายเวลาเพื่อรองรับปริมาณของการลงทุนเป็น 24 ชั่วโมง รวมทั้งการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นลักษณะเหรียญทองออกมาเพิ่มมากขึ้น

ส่วนโปรแกรมการออมทอง จะมีการพัฒนาเพิ่มเติมโดยที่อาจจะมีคุณลักษณะที่น่าสนใจรองรับผู้ที่ต้องการซื้อทองสะสมมากขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทได้ใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และได้เป็นโบรกเกอร์ของการซื้อขายตลาดอนุพันธ์(TFEX) ทุกประเภท ยกเว้น SET 50 Index Options และ Dollar baht futures ที่ยังติดปัญหา ดังนั้น ช่วงแรกจะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมากขึ้น เพื่อให้นักลงทุนสามารถใช้ช่องทางการลงทุนมากขึ้น

นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออสสิริส จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองในไตรมาส 1/55 ยังเป็นขาขึ้น และจะสามารถ Rebound ได้ มองว่าราคามีโอกาสอยู่มากกว่า 1,700 เหรียญสหรัฐแน่นอน จากแนวโน้มของ Fiscal cliff ที่คลี่คลาย และจุดเปลี่ยนของการเมืองในประเทศจีน ประกอบกับ ปีนี้จะมีการเลือกตั้งผู้นำของเยอรมัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกที่ปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น

"ผมมองว่า ทั้งการเมือง และเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น เป็นปัจจัยเอื้อให้ดันราคาทองขึ้นไปสูงได้ มองเป้าหมายแรกที่ 1,700 เหรียญ คิดว่าถึงแน่ มองว่าจากการผันผวนในระดับนี้และตัวเลขปัจจุบัน ผมว่าเราเห็น 1,700 ขึ้นไปแน่ๆ มองว่าหากผ่านแนวต้านที่ทางจิตวิทยาไปได้จะไม่หยุดอยู่ที่ 1,700 เหรียญมองว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นไปได้อีก"นายบุญเลิศ กล่าว

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโลกแม้มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ไม่ได้อยู่ระดับดีขึ้นมากจนถึงขั้นพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนยุโรปยังไม่ดีขึ้น ส่วนจีน เอเชีย และอาเซียน มีแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดี แต่อาจจะมีการชะลอตัวลงบ้าง

สำหรับปีนี้การลงทุนในทองคำยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากกองทุน ETF ยังมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และธนาคารกลางในหลายประเทศยังซื้อสุทธิต่อเนื่องมาหลายปี โดยมองกรอบราคาทองคำ แนวรับ 1,650 เหรียญสหรัฐ และแนวต้านที่ 1,700-1720 เหรียญสหรัฐ และราคาทองในประเทศ ให้กรอบราคา แนวรับ 23,000 บาท และแนวต้าน 26,000 บาท

แนะนำนักลงทุนที่ลงทุนระยะยาวให้ซื้อในระยะราคาที่ต่ำกว่าค่ากลางของราคาทองที่ 24,000 บาทเพื่อถือยาว โดยมองว่าได้กำไรแน่นอน และแนะนำว่าการซื้อทองที่ต่ำกว่าราคาค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,660 เหรียญสหรัฐและสามารถรอได้ก็จะสามารถทำกำไรได้แน่นอน แต่ต้องขึ้นอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นว่าตลาดยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งภายในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาราคาไม่เคยต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 200 วันเกิน 2 เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ