เนื่องจากภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศไทยยังเติบโตได้ดี และภาพรวมของตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมีความแข็งแกร่งและเติบโตดีกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก สาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจของประเทศยังมีอัตราการเติบโตได้เป็นอย่างดี การปรับขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทได้ทำการตลาดเชิงรุกโดยการขยายฐานตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง บวกกับความสัมพันธ์ระหว่างดีลเลอร์ก็มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้น ส่งผลให้ดีลเลอร์ส่งลูกค้าให้บริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของบริษัทในรอบเวลา 1 เดือน ในเดือนธันวาคมปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 8,000 คัน
"ยอดปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ที่เติบโตมาอยู่ระดับ 8,000 คันต่อเดือน เป็นอัตราการขยายตัวที่ก้าวกระโดดอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่ธุรกิจอยู่ในช่วงปกติและมียอดปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ประมาณ 3,800-4,000 คันต่อเดือน ขณะที่ธุรกิจในปี 2554 นำมาเปรียบเทียบไม่ได้เพราะได้เกิดปัญหาอุทกภัยจนส่งผลทำให้ธุรกิจเกิดการชะลอตัว
สำหรับการดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชา ในนามบริษัทลูกที่ชื่อ GL Finance หรือ GLF นั้น ในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจและการทดสอบตลาดได้เห็นอย่างชัดเจนว่าธุรกิจมีโอกาสเติบโตอย่างมาก โดยปลายปีที่แล้วบริษัทได้ทดลองปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าไปแล้วประมาณ 130 ราย เพื่อทดสอบความพร้อมและระบบการทำงาน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL แต่อย่างใด
“หลังจากที่ทดสอบการปล่อยสินเชื่อจำนวน 130 รายในช่วงปลายปีที่แล้ว ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีตัวเลข NPL เกิดขึ้น ดังนั้นในปีนี้บริษัทจะรุกเดินหน้าธุรกิจอย่างเต็มที่ ซึ่งภายในกลางปีนี้บริษัทจะเพิ่มสำนักงานขายให้ครบ 36 แห่ง เพื่อครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั้งหมดของประเทศกัมพูชา" นายมิทซึจิ กล่าว