ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 91,045 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 16, 2013 17:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ 91,045 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 55,044 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 30,904 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 33.9% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,984 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB236A, LB176A และ LB155A (รุ่นอายุ 10.4 ปี, 4.4 ปี และ 2.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 17,159 ล้านบาท หรือคิดเป็น 56% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ

          1. บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT138A)           มูลค่า 912 ล้านบาท

2. บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) มูลค่า 276 ล้านบาท

          3. บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) (SCC136A)            มูลค่า 212 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,400 ล้านบาท หรือคิดเป็น 71% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

          1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน             ซื้อสุทธิ 6,245 ล้านบาท

2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 703 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 10,033 ล้านบาท

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบันไปอีกซักระยะ สำหรับพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 10 ปี และ 50 ปี ที่เปิดประมูลในวันนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้าร่วมเสนอราคาประมูลคิดเป็นสัดส่วนถึง 1.9 และ 2.41 เท่าของปริมาณพันธบัตรทั้งหมดที่เปิดให้ประมูลในแต่ละรุ่นตามลำดับ นอกจากนี้แล้ว ตลาดกำลังจับตาดูกระแสเงินทุนไหลเข้า (Fund Flow) ในช่วงนี้ ที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางด้านนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อส่วนใหญ่ในตราสารระยะสั้น โดยในวันนี้มียอดซื้อสุทธิ รวม 10,033 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ